xs
xsm
sm
md
lg

อัยการนำ “นักธุรกิจจีน” เบิกความคดีตู้ห่าว ยัน “จินหลิง” เปิดบ่อน-ค้ายา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคดี “ตู้ห่าว” อย่างเข้มงวด
ศาลอาญากรุงเทพใต้ สืบพยานโจทก์ล่วงหน้าคดีตู้ห่าว กับพวก สมคบค้ายาฟอกเงิน โดยอัยการนำนักธุรกิจจีนที่เคยไปเที่ยวผับจินหลิง เบิกความ ยัน เข้าไปเสพยา-เล่นพนันภายในผับ ก่อนตำรวจบุกจับ ด้านชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 หน่วยงาน เข้มงวดความปลอดภัยทั่วบริเวณศาล

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าคดี ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้า ตามคำร้องหมายเลขดำ ยสฟ. 1/2566 หรือ สำนวนคดีหมายเลขดำ ย. 87/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายฮวง ไฮ่ เท่า (HUANG HAITAO) เป็นจำเลยที่ 1 นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานนท์ เป็นจำเลยที่ 2 รวมกับพวกสัญชาติจีน ไทย กัมพูชา และบริษัทนิติบุคคล (5 แห่ง) ข้อหากระทำความผิดประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พ.ร.ก.การบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91, 209


ซึ่งพยานที่ขอสืบนี้เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน และเป็นประจักษ์พยานข้อเท็จจริงส่วนสำคัญคดีนี้ โดยพยานอยู่ระหว่างรอส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับภูมิลำเนา จึงเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนขอสืบพยานก่อนฟ้องไว้

โดยวันนี้ อัยการ โจทก์ จำเลย ทั้งหมดพร้อมทนายความมาศาล

เมื่อถึงเวลานัดในช่วงเช้า อัยการโจทก์ได้นำนักธุรกิจชาวจีน อายุ 33 ปี ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย พยานโจทก์เบิกความว่า ตนเองได้เข้ามาประเทศไทยเมื่อปี 2563 ผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต ตั้งแต่เข้ามาก็พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาตลอด โดยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต 4 เดือนแล้วไปพักที่พัทยา จ.ชลบุรี และ กรุงเทพฯ

พยานรู้จักผับจินหลิง เพราะเคยไปเที่ยวมาก่อนจะถูกจับกุมอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกไปเที่ยวด้วยตนเอง และเข้าไปเล่นการพนัน โดยสถานที่เล่นพนันอยู่ทางด้านซ้ายของผับดังกล่าว

ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 ตนไปเที่ยวผับจินหลิง กับเพื่อนชาวจีนอีกคน ซึ่งตอนที่จะเข้าไปในผับจินหลิงจะมีการตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียด เมื่อเข้าไปด้านในผับก็จะเปิดห้อง มีขนาดที่นั่งได้ประมาณ 30 กว่าคน ตอนนั้นมีทั้งนักเที่ยวชาวจีนและชาวไทย ส่วนตนเองได้เสพยาเสพติด ประเภทเคตามีน เข้าร่างกาย หลังจากนั้น ประมาณ 40 นาที จึงมีเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปจับกุมดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด และได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษปรับและคดีถึงที่สุดแล้ว

ซึ่งอัยการโจทก์ได้นำพยานเข้าสืบ 1 ปากจนเสร็จสิ้น โดยอัยการโจทก์ติดใจที่จะนำสืบพยานล่วงหน้าอีกในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ตามที่ยื่นคำร้องขอไว้

ด้านทนายความฝ่ายจําเลยทั้ง 23 ราย แถลงว่า เนื่องจากมีการนัดสืบพยานล่วงหน้าในคดีนี้ไว้ เพียงวันที่ 23 และ 24 ม.ค. เท่านั้น และตั้งแต่วันที่ 25-27 ม.ค.ทนายความติดว่าความคดีสำคัญที่ศาลอื่นหลายคน และเนื่องจากเป็นพยานปากที่ 2 ทำให้ทางฝ่ายทนายความจําเลยทั้ง 23 ราย ยังต้องมารักษาผลประโยชน์ให้จำเลยของตน เนื่องจากยังไม่แน่ว่า พยานของโจทก์นั้นจะเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เกี่ยวกับจำเลยของแต่ละคนอย่างไรบ้าง จึงขอมาทำหน้าที่ด้วยตนเอง หากมีการสืบพยานโจทก์ไปบางส่วนและฝ่ายจำเลยทั้ง 23 ราย เห็นว่า ประเด็นแห่งคดีที่เกี่ยวข้องกับจำเลยของตนเป็นอย่างไร และสามารถที่จะฝากคำถามค้านให้กับทนายความที่ร่วมทําคดีนี้คนอื่นถามแทนให้ได้ ในนัดต่อไปจะมีการแต่งตั้งให้ทนายความของคนที่มีวันว่างเพื่อทำหน้าที่แทนทนายความที่ไม่มีวันว่างในวันนัดนั้นๆ

ศาลพิเคราะห์แล้ว กรณีมีเหตุสมควร จึงให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ไปเป็นวันอังคารที่ 31 ม.ค. 2566 เวลา 09.00-16.30 น. ตามที่คู่ความตกลงกันทโดยให้เบิกตัวจําเลยที่ถูกคุมขัง มาในวันนัด และให้จัดล่ามภาษาจีนกลางจากสำนักงานศาลยุติธรรมมาในวันนัดด้วย

สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า มีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษจากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจศาล (court marshal) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของอรินทราช 26 จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอาวุธครบมือ สนธิกำลังกัน เกือบ 40 นาย มาสแตนบายดูแลรักษาความปลอดภัย ภายในบริเวณศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อป้องกันความวุ่นวายและเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น