ดีเอสไอฝากขังครั้งแรก “แดรัล” ผู้ต้องหาคดีร่วมฉ้อโกงแชร์ Forex-3D พร้อมค้านประกัน ระบุ มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง และไม่ให้ประกันตัว
วันนี้ (18 ม.ค.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัว นายแดรัล หรือ ดาริล ยังฮุย ไค (MR.DARYL YONGHUI CAI) อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D ซึ่งเป็นสามีของ ซาร่า คาซิงกินี นางแบบสาวชื่อดัง มายื่นคำร้องขอฝากครั้งแรกต่อศาลอาญา มีกำหนด 12 วัน โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ ว่า ตามวันเวลา และสถานที่เกิดเหตุ นายแดรัล และ นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวกได้กระทำความผิดโดยทุจริตในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ร่วมกันหลอกลวงโดยการโฆษณาชักชวนต่อประชาชนทั่วไปหรือบุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ว่า ตนเองมีกิจการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และชักชวนผู้สนใจร่วมลงทุนผ่านเว็บไซต์ www.Forex-3D. COM โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 20-60 ต่อปี โดยมีการโฆษณาชักชวนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่นเว็บไซต์ www.Forex-3D.com เว็บไซต์บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กในชื่อบัญชี “Apiruk krub”, “Apirak Kothi” และ “Forex-3D” โดยเว็บไซต์ www.Forex-3D.com เป็นเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงประชาชนทั่วไป เพื่อแสดงผลให้ปรากฏแก่ผู้ลงทุนที่เข้าไปดูรายละเอียดการลงทุนของแต่ละคนในระบบว่ามีการลงทุนเทรด หรือเก็งกำไรซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจริง มีการแสดงการเก็งกำไร จับคู่สกุลเงิน หากแต่เป็นเพียงการเขียนโปรแกรมเพื่อหลอกนักลงทุนเท่านั้น โดยมีการดึงข้อมูลมาจากโปรแกรม MT4-MetaTrader 4 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายคำเงิน มาแสดงเงินผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับ ไม่ได้มาจากการเทรด Forex จริง แต่เป็นการเขียนสมการคำนวณเงินผลตอบแทนตามระดับรูปแบบ (Class) ในการลงทุน ผลตอบแทนจะได้มากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับการกำหนดเปลี่ยนสมการการคำนวณเป็นคราวๆ ไปว่าในช่วงเวลาใดต้องการคำนวณที่ให้ผลกำไรออกมาแบบใด
ผลกำไรตอบแทนที่ผู้ต้องหากับพวก ประกาศชักชวนให้ลงทุนโดยอ้างว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้ได้ร้อยละ 20-60 ต่อปี นั้น เป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึ่งจ่ายได้ โดยที่ผู้ต้องหากับพวก รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า จะต้องนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใด โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำจ่ายในอัตรานั้นได้ เป็นการระดมเงินทุนแล้วหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนว่าจะให้ดอกเบี้ยในอัตราอย่างสูงต่อเดือน ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกและร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งการโฆษณาชักชวนหลอกลวงประชาชนของผู้ต้องหากับพวก ดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงไม่มีการนำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างๆ (Forex) ตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นการนำเงินจากประชาชนผู้ลงทุนรายนั้นหรือรายอื่นมาหมุนเวียนจ่ายแก่ประชาชนผู้ลงทุนรายนั้นเองหรือผู้ลงทุนให้กู้ยืมเงินรายอื่น หรือได้นำเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินอื่น หรือโอนฝากนั้นเองหรือผู้ลงทุนให้กู้ยืมเงินรายอื่น หรือได้นำเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินอื่น หรือโอนฝากเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา กับพวกของตนเอง ทั้งนี้คดีปรากฎหลักฐานว่าผู้ต้องหา ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการร่วมกระทำความผิดเป็นการรับโอนเงิน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีนี้ จากบัญชีเงินฝากของนายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก เข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของผู้ต้องหา โดยไม่ปรากฏมูลหนี้ต่อกัน รวมเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท อันมีลักษณะเป็นการตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่กันในระหว่างผู้กระทำความผิด มีลักษณะเป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง และมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินโดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ เป็นการนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินโดยไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ โดยการหลอกลวงดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวน 9,424 รายมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 2,489.820,321.52 บาท
ทั้งนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับ นายแดรัล ยังฮุย ไช ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 2412/2565 ลงวันที่ 8 พ.ย. 2565 จากนั้นวันที่ 16 ม.ค. 2566 ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าแสดงตัวและจับกุม ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันและมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าวจริง จึงนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4, 5, 12, 15 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรกและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14
เหตุเกิดที่แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.และท้องที่ต่างๆ ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 25 พ.ย. 2558 - วันที่ 28 ธ.ค. 2562
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องสอบพยานอีก 50 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษและอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 ม.ค. 2566 และขอคัดค้านการประกันตัว เหตุผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับมูลค่าความเสียหายในคดีค่อนข้างสูง เกรงว่าจะหลบหนีอีก และยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมา ซาร่า แฟนสาวของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 500,000 บาท โดยเสนอขอติดกำไล EM ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขัง
ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดี มีมูลค่าเสียหายกว่าพันล้านบาท ผู้ต้องหาถูกหมายจับมีพฤติการณ์การหลบหนี รวมทั้งเป็นชาวต่างชาติ พยานหลักฐานชั้นสอบสวนมีเงินเข้าในบัญชีผิดปกติ และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน น่าเชื่อว่า อาจจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
