โชเฟอร์แท็กซี่ซดน้ำยาล้างห้องน้ำหมดขวด หวังลาโลกต่อหน้าลูกสาว

หนุ่มวัย 43 ปี ขับแท็กซี่มาจอดริมรั้วสวนลุมพินี ก่อนกินน้ำยาล้างห้องน้ำ จนหมดสติไปต่อหน้าลูกสาว 2 คน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

วันนี้ (11 ม.ค.) ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี รับแจ้งมีผู้หมดสติภายในรถแท็กซี่สีชมพู-เขียว ของสหกรณ์แท็กซี่อาสาสมัคร จำกัด จอดอยู่บริเวณริมรั้วสวนลุมพินี ฝั่งตรงข้ามสถานทูตญี่ปุ่น ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญูให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดอยู่ริมทาง โดยคนขับรถแท็กซี่ ทราบชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกากี นุ่งกางเกงสีเทา นอนอยู่ที่เบาะฝั่งคนขับ และมีเด็กหญิง 2 คน อายุประมาณ 5-10 ขวบ นั่งร้องไห้อยู่ที่เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าและเบาะด้านหลัง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยปฐมพยาบาล พบว่า ยังมีสัญญาณชีพจร แต่ไม่มีสติ ไม่สามารถถามตอบได้ จึงรีบประสานรถกู้ชีพของโรงพยาบาลจุฬาฯ ให้เข้ามารับตัวส่งโรงพยาบาลตากสิน

นายวาธิต ยิ่งรุ่งเรือง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีผู้หมดสติ น้ำลายฟูมปาก อยู่ในรถแท็กซี่ หน้าสถานทูตญี่ปุ่น จึงเร่งเข้าให้การช่วยเหลือ พบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำตกอยู่ในรถด้วย 1 ขวด โดยลูกสาวทั้ง 2 คน ที่อยู่ในอาการตื่นตกใจและร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อสอบถามก็ได้ใจความว่า บ้านอยู่ย่านพระราม 2 และไม่ทราบว่าจะเดินทางไปไหน ก่อนที่จะมาหยุดอยู่บริเวณดังกล่าว แล้วพ่อก็กินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไปจนหมดขวด ก่อนจะหมดสติไป และไม่สามารถติดต่อแม่ที่บ้านได้ เนื่องจากโทรศัพท์แบตเตอรี่หมด

พ.ต.ท.อดิศักดิ์ แก้ววงษา สว.จร.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเด็กร้องไห้ขอความช่วยเหลือ ที่บริเวณหน้าสถานทูตญี่ปุ่น จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้ามาตรวจสอบ และพบผู้หมดสติอยู่ภายในรถ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้น ก่อนส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป