xs
xsm
sm
md
lg

"ชูวิทย์" ให้ข้อมูลจเรตำรวจคดีผับจินหลิง ชี้ไร้ประโยชน์เปรียบเหมือนการแสดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



นายชูวิทย์ เข้าให้ปากคำจเรตำรวจคดีผับจินหลิง เผยถูกเรียกมาให้ข้อมูลครั้งนี้เปรียบเหมือนการแสดง เพราะเชื่อว่า จเรตำรวจจะไม่เอาจริง

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ สำนักงานจเรตำรวจ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำหลักฐานเอกสารต่างๆ รวมทั้งคลิปวีดีโอ เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ ภายหลังได้รับหมายเรียกมาให้ปากคำจากการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการทำงานของชุดพนักงานสอบสวนนครบาลที่ดูแลคดีกลุ่มนายทุนจีนทำธุรกิจสีเทา และคดีสถานบันเทิงจินหลิง ของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาคดียาเสพติด

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ แต่มองว่าการเรียกเข้ามาครั้งนี้เหมือนเป็นละคร ลิเก หนังตะลุง การแสดง เพราะเชื่อว่าจเรตำรวจแห่งชาติจะไม่เอาจริง ทั้งที่จริงๆ แล้ว ควรมีคนกลางที่ไม่ใช่ตำรวจมาร่วมในการตรวจสอบด้วยเหมือนในต่างประเทศ หากวันนี้เข้าไปให้ข้อมูลแล้วทางจเรตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีท่าทีจะเอาจริงในการเอาผิดกับตำรวจชุดดังกล่าวก็จะเดินออกจากห้องทันที

สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้จเรตำรวจแห่งชาติวันนี้มีทั้งหลักฐานการตัดต่อภาพวงจรปิดของพับจิ้นหลิง และผับลีลาซึ่งมีภาพการตั้งบ่อนการพนันในจุดดังกล่าว หลักฐานการออกหมายจับช้า การไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ทั้งที่เวลาผ่านมานาน การไม่ดำเนินคดีเรื่องบ่อนการพนันในผับจินหลิง โดยนายชูวิทย์บอกว่าพยานหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นเพียงบางส่วน โดยยังมีพยานหลักฐานอยู่อีกจำนวนมาก แต่ต้องดูท่าทีของจเรตำรวจแห่งชาติว่าจะเอาจริงในเรื่องนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าจเรตำรวจมีข้อมูลทุกอย่างอยู่แล้ว

นายชูวิทย์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ พันตำรวจโท คมไพร และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้กำกับการสน.ยานนาวาในขณะที่เกิดคดีว่า ใครเป็นคนดูแลตำรวจทั้งสองนายนี้มาตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน

ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า หลังมีการจับผับจินหลิง มีการสั่งย้ายนายตำรวจเพียงแค่นายเดียว ทั้งที่คดีอื่นๆ ต้องสั่งย้ายทั้ง 5 เสือของ สน.ที่เกิดเหตุ เหมือนกับกรณีของผู้เสียชีวิตภายในผับ Top one พื้นที่สนสุทธิสาร และกรณีผับเครือข่ายของนายตู้ห่าวที่พัทยา

ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่ทำสำนวนคดีนายหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นคนส่งข้อมูลและพยานหลักฐานไปให้ตนเอง เรื่องนี้มองว่าตำรวจนายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้อง แต่ตนเองมีข้อมูลที่ได้จากแหล่งอื่นไม่ใช่เพียงตำรวจนายดังกล่าวเพียงคนเดียว และเชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวจะไม่ทำให้ตำรวจนายอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่กล้าส่งข้อมูลอื่นๆ มาให้อีก

ทั้งนี้ยังกล่าวถึงเรื่องที่อัยการเข้ามาดูคดีนายตู้ห่าว ที่จนถึงขณะนี้อัยการยังไม่มีการรับเป็นคดีของนายตู้ห่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร แต่เข้ามาทำหน้าที่ ที่ปรึกษา แต่สำนวนคดียังอยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอาจทำให้คดีเกิดความเสียหายได้ มองว่าเหมือนเป็นการเล่นละครอีกโรงหนึ่ง

นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังยืนยันว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือต้องการกลั่นแกล้งทางการเมืองกับบุคคลใด และไม่ได้คิดจะไปสังกัดพรรคไหน ไม่ได้รับใบสั่งจากใคร

อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ยังประกาศว่า ในช่วงเย็นวันนี้ จะเดินทางไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ซึ่งจะมีการประกาศเปิดตัวพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อถามคำถามนายกรัฐมนตรี เรื่องหลานที่ไปเกี่ยวข้องกับคดีของนายตู้ห่าว และพวก พร้อมนำตะเกียง และเทียนไปให้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ควรหงุดหงิดโมโห แต่ควรตอบคำถามและอธิบายเรื่องให้กับตนเอง และประชาชนทุกคนรับทราบ ครั้งนี้ไม่หนักใจหากจะเข้าไม่ถึงตัวนายกรัฐมนตรีก็จะหาที่นั่งรอเข้าพบและให้ข้อมูลต่างๆ จนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น