MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประชุมติดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เผย สถิติ 6 วัน มีแนวโน้มลดลงในทุกมิติ กำชับทุกหน่วยเร่งอำนวยความสะดวกการจราจร ลดการสูญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่วันสุดท้ายในช่วง 7 วันอันตราย
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามข้อมูลและสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ข้อมูลและสถิติอุบัติเหตุใหญ่ การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก การตั้งจุดตรวจ แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ ตลอดจนสภาพการจราจรและปริมาณรถในพื้นที่ โดยมีตัวแทน บช.น., ภ.1-9 และ บช.ก. เข้าร่วมประชุม
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและการบังคับใช้กฎหมายเทศกาลปีใหม่ 2566 ประจำวันที่ 3 ม.ค. 66 (วันที่ 6 ของการควบคุมเข้มข้น) ในภาพรวม สามารถลดสถิติอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี มากกว่าร้อยละ 5 ซึ่งถือว่า 6 วันที่ผ่านมา สำเร็จตามค่าเป้าหมาย ดังนี้
การเกิดอุบัติเหตุ สะสม 6 วัน (29 ธ.ค. 65 - 3 ม.ค. 66) จำนวน 2,201 ครั้ง ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ 65 จำนวน 297 ครั้ง (-11.89 %) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 676 ครั้ง (-23.50%) ผู้เสียชีวิต สะสม 6 วัน (29 ธ.ค. 65 - 3 ม.ค. 66) จำนวน 282 ราย ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ 65 จำนวน 30 ราย (-9.62%) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 54 ราย (-16.07%)
ผู้บาดเจ็บ สะสม 6 วัน (29 ธ.ค. 65 - 3 ม.ค. 66) จำนวน 2,197 คน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ 65 จำนวน 273 คน (-11.05 %) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 691 คน (-23.93%)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก รวม 6 วัน 441,288 ราย มากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง ถึง 88.26% โดยข้อหาสำคัญ ได้แก่ เมาแล้วขับ 20,040 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 168,454 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 87,191 ราย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 24,612 ราย
จำนวนอุบัติเหตุสะสมสูงสุดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช 76 ครั้ง เสียชีวิตสูงสุดในพื้นที่ จ.เชียงราย 13 ราย โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 37.71 และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสูงสุดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 60.59
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า ผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวมทั้งประเทศ ยังต่ำกว่า ช่วงเดียวกันของปีใหม่ 2565 และยังอยู่ในเกณฑ์ค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พอใจผลการอำนวยการจราจรที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งปีนี้ แม้จะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนามากกว่าปีก่อนๆ ส่งผลให้ปริมาณรถมีจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยก็ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแล และจัดการจราจร อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ โดยได้ฝากขอบคุณข้าราชการตำรวจทุกนายที่ได้เสียสละร่วมกันดูแลและจัดการจราจร และใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ จนเกิดผลสัมฤทธิ์และได้รับคำชมเชยจากหลายภาคส่วน
พล.ต.ท.ประจวบ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตามแนวทางข้อสั่งการของ ผบ.ตร. โดยเคร่งครัด และให้ทุกหน่วยยังคงความเข้มในทุกมาตรการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนในวันสุดท้ายของช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น แม้การจราจรส่วนใหญ่ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงเหลือประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ กทม. โดยเฉพาะถนนบนสายเอเชียและสายมิตรภาพ ให้เน้นการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วไว้แก้ไขปัญหา หากมีอุบัติเหตุเกิดให้เร่งรัดตรวจสอบ ทำการแยกรถและเคลื่อนย้ายรถ มิให้เกิดปัญหารถติดสะสม และเร่งรัดตรวจสอบสมรรถนะรถตู้ รถบัส รถโดยสารที่มีประชาชนโดยสารจำนวนมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขนาดใหญ่ และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ มิใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ให้ดำเนินการตามมาตรการบังคับ ใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความผิดตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก และเน้นในข้อหาขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด นอกจากนี้ยังให้ทุกหน่วยถอดบทเรียนการปฏิบัติ ทั้งในส่วนที่ปฏิบัติได้ดีอยู่แล้ว ให้ปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่ยังมีปัญหาข้อบกพร่องให้หาทางแก้ไข เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาลสงกรานต์ 2566 ต่อไป
“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวกในการการเดินทาง ลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย สังคมมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากอาชญากรรมทุกประเภท” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ