xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ตั้ง คกก. สอบข้อเท็จจริง ร่วมค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เซ็นคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จนท.ร่วมตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย หากพบกระทำผิด ลงโทษเด็ดขาด

วันนี้ (30 ธ.ค.) ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยแพร่เอกสารข่าว เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 ชี้แจงกรณี เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมเข้าตรวจค้นสถานที่พำนักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย ลงวันที่ 22 ธ.ค.65 ซึ่งปรากฏข่าว กล่าวหาว่าสิ่งของที่ตรวจยึด ส่งพนักงานสอบสวนไม่ครบถ้วน โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีข้อสั่งการให้กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาครายงานข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณา และต่อมาปรากฏข่าวเพิ่มเติมว่าได้มีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษอธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษและรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก.ปปป.ตร.) ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกล่าวหาว่ามีการอนุมัติให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นข่าวเข้าร่วมตรวจค้นดังกล่าว เดินทางไปราชการโดย มิชอบด้วยกฏหมาย นั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอเรียนชี้แจงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่ากองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้รายงานข้อเท็จจริงในการร่วมปฏิบัติหน้าที่ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว สาระสำคัญว่าในวันดังกล่าวเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ (191) เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ใช้อำนาจในการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ประสานงาน ตามที่ได้รับการร้องขอจากสถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย ในการปฏิบัติมีเจ้าพนักงานตำรวจเข้าร่วมปฏิบัติการ 12 นาย และเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ช่วยเหลือและประสานงาน 3 นาย รวมทั้งหมด 15 นาย

เจ้าพนักงานตำรวจมีการจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีนพร้อมยึดทรัพย์สิน 12 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวนนครบาลทุ่งมหาเมฆดำเนินคดี ในการปฏิบัติหน้าที่มีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงเข้าร่วมปฎิบัติงานในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจและผู้ประสานงาน ตามที่สถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทยร้องขอเท่านั้น ซึ่งล่าสุด สถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 28 ธ.ค.65 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รายงานผลการร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจค้นจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจในเรื่องนี้ รายงานไม่พบว่าเห็นเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษถือสัมภาระหรือสิ่งของใด ออกมาจากสถานที่ตรวจค้นจับกุมแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นการเดินทางไปราชการนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏข้อเท็จจริงว่า ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีข้าราชการทั้งสามรายที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่ฯ รวมอยู่ด้วย ได้มีบันทึก ลับ ลงวันที่ 16 ธ.ค.65 ขออนุมัติเดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อปฏิบัติงานด้านการข่าวในภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.65 ถึง 20 ม.ค.66 โดยในข้อ 5 ของบันทึกดังกล่าว ได้กล่าวถึงกรณีที่ข้าราชการในคำสั่งมีภารกิจทับซ้อนกัน ขอให้ข้าราชการที่อยู่ในชุดปฏิบัติการที่ได้รับมอบหมายภารกิจอื่นที่ทับซ้อนในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถขออนุมัติ และเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแสดงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องการตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย เป็นไปโดยโปร่งใส อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มีคำสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 1650/2565 ลงวันที่ 28 ธ.ค.65 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ทั้งนี้ เมื่อผลการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ หากกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่ามีผู้กระทำความผิด จะเสนอให้มีการพิจารณาลงโทษโดยเด็ดขาด และจะแจ้งให้ผลการดำเนินการให้สาธารณชนทราบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น