MGR Online - รมว.ยุติธรรม เผย “ดีเอสไอ” สอบราชการตามมาตรฐาน สั่งตั้งกรรมการตรวจปมข้อสอบรั่วหรือไม่ ย้ำไม่เคยตั้งที่ปรึกษาชุด “พาลีปราบยา” มองหวังผลดิสเครดิตการเมือง
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมประจำสัปดาห์ โดยมี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม , น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม , นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม , นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม , พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ผู้บริหาร อธิบดีกรมต่างๆและ ข้าราชการ ร่วมการประชุม
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ถวายฎีการ้องขอความเป็นธรรม โดยประเด็นแรก เป็นการร้องเรียนการสอบคัดเลือกเลื่อนระดับชั้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีการสอบนั้น ทางดีเอสไอได้กำหนดหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย โดยมี คณะกรรมการ กพ. และผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการ โดยจะมีการทดสอบ 3 ส่วน คือ 1. สอบข้อเขียน 2. ผลงานและประวัติการรับราชการ และ 3. การสอบสัมภาษณ์ ซึ่งผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกต้องได้คะแนนในแต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 60% ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ร้องไม่ผ่านการสอบข้อเขียนได้คะแนนไม่ถึง 60% ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างว่ามีข้อสอบรั่วนั้น ดีเอสไอไม่ได้ออกข้อสอบและจัดสอบเอง แต่ให้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดแล้วส่งคะแนนมาให้ โดยผู้ร้องร้องทั้งกระบวนการว่าทุกอย่างไม่ชอบ โดยไม่มีเหตุผลประกอบ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ทางดีเอสไอ ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้ออกข้อสอบ เพราะมีการรักษาความลับ ซึ่งข้อสอบที่ออกมาก็ไม่ได้ง่าย จากรายงานทราบว่าคนมากกว่าครึ่งก็สอบไม่ผ่าน และยังมีสายงานว่างอยู่ถึง 20 ตำแหน่งที่จะต้องสอบใหม่ ซึ่งตรงนี้ตนได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาว่ามีข้อสอบรั่วจริงหรือไม่ และรั่วที่ตรงจุดไหนอย่างไร ส่วนอีกกรณี คือ ข้อร้องเรียนที่ว่ามีการนำซากลิฟท์เก่าไปขายร้านของเก่า เรื่องนี้ทราบว่า ทางกองยานพาหนะ ได้ทำหนังสือไปขออนุญาต เลขานุการกรม เพื่อนำแผ่นเหล็กและอลูมิเนียมจากลิฟท์เก่า ไปทำโต๊ะ เพื่อวางอุปกรณ์ หลังจากที่ทำเรื่องเบิกพัสดุ แต่ยังรอจัดซื้อ โดยโต๊ะที่ทำมี 5 ตัว ซึ่งอลูมิเนียม 1 แผ่น จากลิฟท์ ยาว 2 เมตร ราคา 200-400 บาท โดยทางกรมได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบเรียบร้อยแล้วทั้งเจ้าหน้าที่ และเจ้าของร้านของเก่า พบว่าทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ฝ่ายยานยนต์นำไปใช้งานเป็นประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้นำไปขายร้านของเก่าแต่อย่างใด เพียงแต่นำไปให้ร้านประกอบเป็นโต๊ะ
"ประเด็นเรื่องพาลีปราบยา ตนไม่เคยตั้งใครเป็นที่ปรึกษา หรือตั้งคนนอกเข้าไป มีเพียง ป.ป.ส. ดีเอสไอ และ บช.ปส. ที่ร่วมเป็นกรรมการ บูรณาการร่วมกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ การทำงานก็มีรางวัล 25% ของทรัพย์ที่ยึดได้ ซึ่งขณะนี้ยึดได้กว่า 3,000 ล้าน จะได้รางวัลถึง 750 ล้านบาท มากกว่าเงิน 250 ล้าน ตามที่เป็นข่าวเสียอีก โดยขณะนี้ยังไม่มีการปลดอายัดใดๆ และไม่ได้รับการติดต่อจากใครทั้งสิ้น ทั้งตัวเองและคนใกล้ชิด ทำให้ผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครไปเรียกรับประโยชน์ ซึ่งการกล่าวหาตรงนี้ อาจจะเป็นเรื่องของการเมือง เพราะที่ผ่านมาเราทำผลงานในการป้องกันและปราบปรามได้เป็นอย่างดี เรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาเกี่ยวกับความเป็นความตายของคนในชาติ และนายกรัฐมนตรีเองก็ให้มีการรายงานทุก 15 วันในเรื่องคดีตู้ห่าว ซึ่งการกล่าวหานี้ ผมได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูในข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องร้อง ส่วนของ เลขา รมว. แจ้งว่า ได้ดำเนินคดีแล้ว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และให้ดีเอสไอ ใช้เครื่องมือพิเศษสืบต้นตอการปล่อยข่าวออกมา เราต้องดำเนินการให้เด็ดขาด อย่าให้ใครมาใส่ร้ายป้ายสี" นายสมศักดิ์ กล่าว