MGR Online - กองบัญชาการศึกษาโร่แจ้งกองปราบเอาผิดขบวนการทุจริตสอบคัดเลือกตำรวจสายอำนวยการ พบผู้กระทำผิดร้อยกว่าราย ส่วนใหญ่รับสารภาพ สั่งตรวจสอบ จนท.ตำรวจ-สถาบันติวเตอร์ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
วันนี้ ( 26 ธ.ค.) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ รอง ผบช.ศ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.ศบศ.รร.นรต. ช่วยราชการ บช.ศ. เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ทุจริตสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายอำนวยการ ในความผิดฐาน “ทุจริตการสอบ ,เอาไปซึ่งเอกสารราชการ และ อั้งยี่ซ่องโจร”
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อแจ้งเอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายอำนวยการ หลังก่อนหน้ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ซึ่งในส่วนของบุคคลที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้ามาด้วยวิธีการทุจริต พบมีประมาณร้อยกว่าราย ส่วนใหญ่ยอมรับสารภาพจึงคัดออกไป ส่วนตัวการหลักของขบวนการที่ร่วมกันทุจริต พบทำกันเป็นลักษณะกลุ่มเครือข่าย มีอยู่ประมาณ 4-5 กลุ่ม ทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มใดบ้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครือข่ายเดิมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบคัดเลือกตำรวจครั้งก่อนๆ
เมื่อถามว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสถาบันติวเตอร์ เข้าร่วมหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตนี้หรือไม่ พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าขณะนี้มีข้อมูลครบถ้วน รู้แล้วว่าใครอยู่ร่วมขบวนการบ้าง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งทางตนจะนำข้อมูลเหล่านี้มอบให้กับทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเอาผิดทั้งขบวนการ แม้แต่ผู้เข้าสอบที่ทุจริตและยังไม่ยอมรับสารภาพ หากยังไม่ยอมสละสิทธิ์ก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วยเช่นกัน ต่างจากผู้เข้าสอบที่ยอมรับสารภาพสละสิทธิ์ออกไปก่อนหน้านี้ และ ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ดีก็อาจจะถูกกันไว้เป็นพยาน
พล.ต.ต.ประเสิรฐ กล่าวต่อว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลทำให้ต้องมีการสอบคัดเลือกใหม่หรือไม่นั้น ในส่วนนี้ขอชี้แจงว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะการทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นแค่คนกลุ่มน้อย ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถคัดผู้ที่ทุจริตการคัดเลือกที่เหลือออกจากระบบได้ทั้งหมด และ มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดขบวนการทุจริตเหล่านี้มาลงโทษตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน ส่วนหลังจากนี้คงต้องถอดบทเรียนจากเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวย้อนกลับมาอีก