xs
xsm
sm
md
lg

คุม เลขาฯ คนสนิท "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" ฝากขัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจ สน.พหลโยธิน คุมตัว เลขาฯ คนสนิท "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" ไปฝากขังศาลอาญา ปัดตอบคำถามสื่อ

วันนี้ (26 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมเลขาฯ คนสนิทของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ออกจากห้องขังมาขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามหมายจับในข้อหาสนับสนุนให้ผู้ต้องขังในอำนาจของศาลหลบหนี และละเมิดอำนาจศาล กรณีช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ให้หลบหนีออกจากศาล ซึ่งระหว่างที่ควบคุมตัวมา ผู้ต้องหาก้มหน้าไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ได้พูดเพียงว่า ขอใช้สิทธิไม่เปิดเผยชื่อนามสกุลจริง

ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ให้หลบหนีออกจากศาลแล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายสมประสงค์ เลขาฯ คนสนิทของนายประสิทธิ์ และแฟนหนุ่มของเลขาฯ นายประสิทธิ์ ซึ่งได้นำตัวทั้ง 3 คน ไปฝากขังแล้ว ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้ผู้ต้องหาจะพยายามยื่นขอประกัน เพราะศาลมองว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล

ด้าน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เพิ่มเติม ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว น.ส.นัสนันท์ คาดิวี่ แซนด์ หรือ นิว อายุ 44 ปี สัญชาติไทย เลขานุการคนสนิทนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาที่ 2893/2565 ในความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล หลุดพ้นจากการคุมขัง มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาครั้งแรก ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.พหลโยธิน ว่ามีเหตุจำเลยหลบหนีออกจากห้องพิจารณาคดีที่ 903 ชั้น 9 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขณะที่จำเลยขออนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับห้องพิจารณา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบโดยพบนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1837/2564 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ร่วมกันจับกุมตัวไว้ได้ โดยผู้บริหารศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญา, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากรณีดังกล่าว

น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการในการหลบหนีของจำเลยในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้เชิญตัวบุคคลซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 3 คน คือ นายสมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์ คนใกล้ชิดและเป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง น.ส.กัญญามาส ทองปาน เลขานุการส่วนตัว และนายณัฐนันท์ อังคณาวิทยากุล แฟน มาซักถามยังห้องที่ทำการศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ้ายสืบสวน สน.พหลโยธิน จึงได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ศาลอาญาในการสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมประกอบในการดำเนินการตามกฎหมายโดยได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลอาญา พบภาพนายสมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์ เดินออกมาจากลิฟท์บริเวณชั้น 2 ของศาลอาญา แล้วเดินไปอยู่ที่บริเวณหน้ามุขของศาลอาญาแล้วจึงเดินกลับเข้ามาที่บริเวณทางเข้า หน้ามุขศาลอาญโดยในมือได้ถือถุงผ้าสีม่วงลายจุดสีขาว จากนั้นถือถุงผ้า เข้าไปในลิฟท์จากชั้น 2ก่อนที่จะเดินออกมาจากลิฟท์ที่ชั้น 9 พร้อมกับถือถุงผ้าในลักษณะเดียวกัน ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 9 สามารถบันทึกภาพของนายประสิทธิ์ เจียวก็ก จำเลยที่ขณะนั้นอยู่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ซึ่งเชื่อว่าน่าจะกำลังเดินไปปที่บริเวณห้องน้ำ ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดชั้น 3 พบภาพนายประสิทธิ์ในลักษณะที่มีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและไม่มีเครื่องพันธนาการวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ มาจนถึงบริเวณชั้น 3 และถูกเจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไว้ได้

ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ศาลได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายใน ห้องพิจารณา 903 ปรากฏภาพขณะที่ น.ส.กัญญามาส ยื่นแฟ้มสำนวนเอกสารให้กับนายประสิทธิ์และนายประสิทธิ์ได้เปิดแฟ้มสำนวนเอกสารดูพร้อมกับหยิบวัตถุบางอย่างสีขาวในกระเป๋ากางเกงด้านขวา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เชิญทั้ง 3 คน มายังสน.พหลโยธิน โดยนายสมประสงค์ ได้ให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือสรุปว่า มาที่ศาลอาญาเพื่อพบกับนายประสิทธิ์ ตามที่นายประสิทธิ์นัดหมาย ซึ่งเคยพูดกันก่อนหน้านี้ โดยตนเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนที่เสียหาย แต่ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ด้วยนายประสิทธิ์แจ้งว่ามีข่าวดีจะบอก ตนจึงมารอที่ศาลแต่เช้าและพบกับนายประสิทธิ์ แล้วมีโอกาสพูดคุยกัน โดยนายประสิทธิ์ขอให้ช่วยหาเสื้อผ้าเพื่อจะนำมาเปลี่ยนให้เพื่อนที่จะได้รับการประกันตัว จึงไปเอาเสื้อผ้าของตนที่อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวมาให้ เมื่อตนถือถุงเสื้อผ้ามาถึงห้องพิจารณา 903 ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในห้อง น.ส.วนัสนันท์ หรือ นิว เดินมุ่งมาหาที่ตนพร้อมกับบอกว่าให้นำถุงผ้าไปรอที่ห้องน้ำ เดี๋ยวนายประสิทธิ์จะตามเข้าไปเอา ตนจึงไปรอตามที่บอก จากนั้นไม่นาน นายประสิทธิ์ก็ตามเข้าไปในห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและวิ่งหลบหนีออกจากห้องน้ำ ขณะที่ตนตกใจ แจ้งรปภ.ว่านายประสิทธิ์วิ่งหนีไปแล้ว และรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับน.ส.วนัสนันท์ คาดิวี่ แซนด์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาศาลอาญาที่ 2893/2565 ลงวันที่ 23 ธ.ค.2565 ต่อมาเมื่อวันที่24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยแสดงหมายจับและผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงาน สอบสวนสน.พหลโยธิน ดำเนินคดีข้อหา"ร่วมกันกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงาน อัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป" อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 191 วรรคแรก อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 10 ปี เหตุเกิดที่ บริเวณห้องน้ำชายชั้น 9 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565 เวลาประมาณ 10.00 น. โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณซอยกิ่งแก้ว 39 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จ ต้องรอสอบพยานอีก 3 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษ จึงขอฝากขังไว้เป็นระยะเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.- 6 ม.ค.2566

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน เนื่องจากในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาไม่ได้นำหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกัน จึงเกรงว่าหากให้ประกันตัวไปโดยไม่มีหลักทรัพย์ ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว น.ส.วนัสนันท์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมเงินสด 100,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว

ศาลอาญา พิเคราะห์ความหนักเบา แห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่า ร่วมกระทำความผิดที่ทีลักษณะขบวนการ และอุกอาจ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าหากอนุญาตผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น