MGR Online - ชุดคลี่คลายคดีเร่งขยายผลหาตัวการช่วยเหลือ“ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” หนีศาล เชื่อคนในมีเอี่ยว
วันนี้ (25 ธ.ค.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ8) ปฎิบัติราชการสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องคดีสำคัญวางแผนพยายามหลบหนีศาล ว่า แนวทางการดำเนินการขณะนี้ ทางชุดสืบสวนทราบผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดแล้ว และได้แจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งนำตัวมาฝากขังเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขั้นตอนจากนี้ทางพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ชุดทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติ เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้การสนใจและเป็นการกระทำที่อุกอาจ โดยจากนี้จะขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการในการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลการติดต่อระหว่างกลุ่มของผู้ให้การช่วยเหลือกับตัวของ นายประสิทธิ์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ทางชุดสืบสวนได้ตั้งสมมติฐานว่าอาจจะมีคนในให้การช่วยเหลือไม่เช่นนั้นจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้
พล.ต.ท.สันติ กล่าวต่อว่า เนื่องจากขั้นตอนในการหลบหนีของ นายประสิทธิ์ มีการตระเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการนำกุญแจมาปลดเครื่องพันธนาการ ซึ่งเรื่องกุญแจทางชุดทำงานได้สอบสวนร่วมกับทางกรมราชทัณฑ์ อีกทั้งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน และอยู่ระหว่างการรอผลสรุปกับทางราชทัณฑ์ส่งมาให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้สืบสวนทางลับควบคู่ไปด้วย ซึ่งทาง ผบช.ก.ได้ประสานข้อมูลกับทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิดถึงเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อที่จะให้ได้ทราบข้อเท็จจริงโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมตัว มนัสนันท์ เลขา ประสิทธิ์ เจียวก๊ก
เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงได้นำตัวเข้ามาทำการสอบปากคำยัง สน.พหลโยธิน เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหารายดังกล่าวตลอดทั้งคืน เจ้าตัวยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเลขาของนายประสิทธิ์ และ รับรู้ว่าจะมีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามคำให้การของ น.ส.นัสนันท์ ยังมีบางส่วนที่ขัดแย้งกับคำให้การของ นายสมประสงค์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหารายแรกที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน
อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังพบหลักฐานว่า ช่วงเช้าในวันเกิดเหตุ น.ส.นัสนันท์ ได้เดินทางมาที่ศาลด้วยเช่นกัน ก่อนจะเดินทางกลับออกไป ทางพนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกเชิญตัวมาให้ปากคำ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ยอมมาพบ พร้อมทั้งยังมีพฤติกรรมหลบหนี จึงเป็นเหตุให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และนำมาสู่การจับกุมตัวได้ดังกล่าว