ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 3 ผู้ต้องหาจัดเตรียมสิ่งของช่วย “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” หลบหนีขณะขึ้นศาล ชี้ พฤติการณ์วางแผนอุกอาจทำเป็นขบวนการ หวั่นหลบหนี
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นำตัว นายสมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์, น.ส.กัญญามาส ทองปาน, นายณัฐนันท์ อังคณาวิทยากุล ผู้ต้องหา ร่วมกันกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตาม อำนาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการ คุมขังไป มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.พหลโยธิน ว่ามีเหตุจำเลยหลบหนีออกจากห้องพิจารณาคดีที่ 903 ชั้น 9 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ขณะที่จำเลยขออนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับห้องพิจารณา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบโดยพบ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ 1837/2564 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ร่วมกันทำการจับกุมตัวไว้ได้ โดยผู้บริหารศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญา, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากรณีดังกล่าว น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการในการหลบหนีของจำเลยในครั้งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้เชิญตัวบุคคลซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
คือผู้ต้องหาทั้ง 3 มาซักถามยังห้องที่ทำการศาลอาญา
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน จึงได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ ศาลอาญาในการทำการสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมประกอบในการดำเนินการตามกฎหมายโดยได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลอาญา (เริ่มจากเวลาตามกล้อง 09.30 น.) พบภาพนายสมประสงค์ เดินออกมา จากลิฟต์บริเวณชั้น 2 ของศาลอาญา แล้วเดินไปอยู่ที่บริเวณหน้ามุกของศาลอาญาแล้วจึงเดินกลับเข้ามาที่บริเวณทางเข้า หน้ามุกศาลอาญาโดยในมือได้ถือถุงผ้าสีม่วงลายจุดสีขาว จากนั้นถือถุงผ้า เข้าไปในลิฟต์จากชั้น 2 ก่อนที่จะเดินออกมาจากลิฟต์ที่ชั้น 9 พร้อมกับถือถุงผ้าในลักษณะเดียวกัน
กล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 9 สามารถบันทึกภาพของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยคดีฉ้อโกงประชาชน ที่ขณะนั้นอยู่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะกำลังเดินไปที่บริเวณห้องน้ำ ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดพบภาพนายประสิทธิ์ ในลักษณะที่มีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและไม่มีเครื่องพันธนาการวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ มาจนถึงบริเวณชั้น 3 และถูกเจ้าหน้าที่ศาล, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไว้ได้ที่บริเวณชั้น 3
ต่อมาฝ่ายสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ศาลได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องพิจารณาคดี ห้อง 903 ซึ่งเป็นห้องที่พิจารณาคดีของนายประสิทธิ์ ปรากฏภาพขณะที่ น.ส.กัญญามาส ยื่นแฟ้มสำนวนเอกสารให้กับนายประสิทธิ์ และ นายประสิทธิ์ ได้เปิดแฟ้มสำนวนเอกสาร พร้อมกับหยิบวัตถุบางอย่างสีขาวใส่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา
จากนั้นเมื่อผู้บังคับบัญชา ผู้บริหารของศาลอาญาพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามพูดคุยกับบุคคลดังกล่าวข้างต้นที่ศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้เชิญตัวบุคคลทั้ง 3 ราย โดยความยินยอม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจมาที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยมีผลดำเนินการดังนี้
1 .นายสมประสงค์ ได้ทำการบันทึกให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือสรุปได้ว่า ตนได้มาที่ศาลอาญา เพื่อพบกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ตามที่ได้นัดหมายกับตนซึ่งเคยได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้ โดยตนก็เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนที่เสียหาย แต่ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ด้วยนายประสิทธิ์ แจ้งว่ามีข่าวดีจะบอก ตนจึงมารอที่ศาลแต่เช้าและพบกับนายประสิทธิ์ แล้วมีโอกาสได้พูดคุยกัน โดยนายประสิทธิ์ได้ขอให้ตนช่วยหาเสื้อผ้าให้เพื่อนำมาเปลี่ยนให้เพื่อนที่จะได้รับการประกันตัว ตนจึงได้ไปเอาเสื้อผ้าของตนที่อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวมาให้ (ประกอบด้วย 1. กางเกงยีนส์ 2. เสื้อยืดสีเขียว 3. ถุงเท้า 4. กางเกงใน 5. รองเท้าหนังสีน้ำตาล เข็มขัดสีขาว) เมื่อตนถือถุงเสื้อผ้ามาถึงห้องพิจารณา 903 ศาลอาญาขณะที่กำลังเดินเข้าไปในห้อง ได้มี น.ส.นิว (วนัสนันท์ คาดิวี่ แซนด์) ทราบสกุลจริงภายหลัง เดินมุ่งมาหาที่ตน พร้อมบอกว่าให้นำถุงผ้าไปรอที่ห้องน้ำ เดี๋ยว นายประสิทธิ์ จะตามเข้าไปเอา ตนจึงไปรอตามที่ น.ส.นิว บอก จากนั้นไม่นาน นายประสิทธิ์ ก็ตามเข้าไปในห้องน้ำและบอกให้ตนเข้าไปในห้องน้ำที่ติดกัน โดยนายประสิทธิ์ฯได้ยื่นมือลอดช่องด้านล่างเพื่อ มาเอาถุงผ้ากับตน ตนก็นั่งรอนึกว่านายประสิทธิ์จะแจ้งข่าวดีกับตน จนนายประสิทธิ์ ยื่นถุงผ้าคืนมา เมื่อเปิดดูก็เห็นกุญแจกับรองเท้าผู้ต้องหา จึงตกใจเลยรีบออกมาจากห้องน้ำไปพบ รปภ.เลยรีบแจ้งว่าผู้ต้องหาหนีไปแล้ว และตนก็เลยนั่งรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
2. น.ส.กัญญามาส ได้ทำการบันทึกให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือพอสรุปได้ว่าเวลาประมาณ 07.00 น.มาที่ศาลอาญาตามปกติของการสืบคดี เมื่อมาถึงพบนายประสิทธิ์ตนจึงได้บอกว่าไม่สามารถสลับกระเป๋าตามที่นายประสิทธิ์สั่งการไว้ และถามหาเงินที่ให้ตนเตรียมไว้โดยให้หยิบใส่กระดาษ ต่อมา นายประสิทธิ์ได้เดินออกจากห้องเพื่อไปเข้าห้องน้ำ และตนได้เดินตามออกมาถึงได้ทราบว่า นายประสิทธิ์ได้วิ่งหลบหนี และถูกควบคุมตัวไว้ได้ (ตามบันทึกถ้อยคำที่แนบ) ต่อมาพร้อมด้วย นายณัฐนันท์ ได้นำพาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้นายประสิทธิ์เมื่อหลบหนีไปได้
3. นายณัฐนันท์ ได้ทำการบันทึกให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือพอสรุปได้ว่าเวลาประมาณ 06.30 น.ได้เดินทางมาถึงศาลอาญาได้นำกระเป๋าที่บรรจุรองเท้าของข้าพเจ้า 3 คู่ไปสับเปลี่ยนที่ตู้ล็อกเกอร์รับฝากของ เมื่อไปถึงได้สลับกระเป๋าด้านในไม่ทราบว่าบรรจุอะไร หลังจากนั้นได้กลับมาที่ศาลอาญา ขึ้นไปยังห้อง 903 เห็นนายประสิทธิ์ มีพฤติกรรมแปลกๆ จึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้จับตาดู นายประสิทธิ์ ให้ดี ต่อมาเห็นนายประสิทธิ์วิ่งหลบหนีลงบันไดตนจึงได้วิ่งตามเพื่อช่วยจับกุมตัวเมื่อมาถึงชั้นสามพบเจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ควบคุมตัว นายประสิทธิ์ไว้ได้แล้ว
4. บันทึกการตรวจยึดโทรศัพท์ ของบุคคลทั้ง 3 จากความยินยอม (3 เครื่อง)
5. บันทึกสมัครใจให้เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ของบุคคลทั้ง 3 จากความยินยอม
6. อนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับมอบวัตถุพยานซึ่งเป็นเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว 11 รายการ จากเจ้าหน้าที่ศาลอาญาซึ่งตรวจยึดได้ที่ตัวนายประสิทธิ์ ขณะถูกจับกุมตัวซึ่งจำเลยได้สวมใส่และพกพา ขณะหลบหนี อีกส่วนหนึ่งได้จากการที่นายสมประสงค์นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์
เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการจับกุมตรวจยึด คือ นายวศิน บุญสนอง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ส่วนอีก 3 ราย คือ ร.ต.อ.ตฤณ รัตนแก้ว, ว่าที่ ร.ต.อ.ณัฐกร จันทร์งาม, จ.ส.อ.ประพันธ์ สุทธหลวง, ส.ต.อ.บัณฑิต ปราทะกา เป็นเจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญา
ประเด็นที่น่าสนใจจากการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีนายประสิทธิ์ หลบหนีจาก การควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ขณะพิจารณาคดี มีนายสมประสงค์เป็นผู้ส่งมอบเสื้อผ้าให้ (ข้อมูลภาพจากกล้อง และบันทึกให้ถ้อยคำ) 2. น.ส.กัญญามาส เชื่อว่า น่าจะเป็นเจ้าของเงินที่พบยึดได้จากตัวนายประสิทธิ์ ขณะหลบหนีถูกจับกุม (ข้อมูลภาพจากกล้อง) 3. ดอกกุญแจที่ใช้สำหรับไขกุญแจที่สวมใส่นายประสิทธิ์ ยังไม่ทราบว่าได้มาจากที่ใดใครเป็นคนมอบให้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจัดทำบันทึกเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการในการหลบหนีของนายประสิทธิ์ นี้อีกหรือไม่อย่างไรจะได้ทำการสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐานต่อไป
ต่อมา นายวศิน บุญสนอง ผู้กล่าวหา เป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแลเจ้าหน้าที่เรือนจำประจำศาลอาญาได้รับมอบอำนาจจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากวันที่ 22 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.30 น. นายวศิน บุญสนอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแลเรือนจำประจำศาลอาญาได้ไปรับตัวผู้ต้องขังห้องพิจารณาคดีห้อง 903 ระหว่างนั้นนายสุวรรณ โคตรพัฒน์ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้โทรศัพท์ ติดต่อนายวศิน แต่นายวศิน ไม่ได้รับเพราะอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในห้องพิจารณา ต่อมาเวลาประมาณ 10.15 น. นายวศิน ได้เสร็จจากการพิจารณาคดีในห้อง 903 นายวศินจึงโทรศัพท์หานายสุวรรณ แล้วได้รับแจ้งว่านายประสิทธิ์ได้หลบหนีระหว่างที่ควบคุมแต่ขณะนี้สามารถจับตัวได้แล้วกำลังนำตัวมาที่ห้องควบคุมประจำศาลอาญา นายวศินจึงได้เดินทางไปดู นายสุวรรณแจ้งว่านายประสิทธิ์ได้หลบหนีและตกลงมาจากบันได ชั้น 4 มาที่บริเวณชั้น 3 จนได้รับบาดเจ็บ
สอบถามจาก นายสุวรรณ ได้ความว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.30 น. นายสุวรรณ ได้เบิกตัว นายประสิทธิ์ ไปยังห้องพิจารณาคดี ห้อง 903 เพื่อทำการพิจารณาคดี ต่อมาเวลา ประมาณ 09.50น. ระหว่างที่อยู่ในห้องพิจารณานั้นนายประสิทธิ์ ได้ขอเข้าห้องน้ำ นายสุวรรณ จึงได้พาเดินทางมา โดยที่ขาทั้งสองข้างของนายประสิทธิ์ ได้ใส่กุญแจมือที่ขาไว้ เมื่อถึงห้องน้ำ นายสุวรรณได้ให้นายประสิทธิ์ เข้าไปในห้อง ส่วนขับถ่ายภายในห้องน้ำ โดยนายสุวรรณ ยืนรออยู่ภายในบริเวณห้องน้ำ ซึ่งนายสุวรรณ ไม่เห็นว่า นายประสิทธิ์ เข้าห้องน้ำที่ห้องใด นายสุวรรณ จึงเฝ้าอยู่ ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. นายสุวรรณ สังเกตเห็นมีคนเดินออกมาโดยสวมเสื้อสีฟ้า สวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาล โดยไม่ได้ใส่ชุดเรือนจำ ใส่หน้ากากอนามัย แต่นายสุวรรณ จำได้ว่า คือ นายประสิทธิ์จึงเรียกให้หยุด แต่นายประสิทธิ์ไม่หยุดกลับวิ่งหลบหนี นายสุวรรณจึงวิ่งไล่ติดตามลงมาจนถึงบริเวณชั้น 3 ซึ่งนายประสิทธิ์ ตกลงมาถูกราวบันไดจนได้รับบาดเจ็บ นายสุวรรณ จึงได้จับกุมตัวไว้ได้ หลังจากนั้นนายสุวรรณจึงได้แจ้งเหตุการณ์ให้นายวศิน ได้ทราบเหตุการณ์ที่นายประสิทธิ์จะได้หลบหนี
ต่อมาในวันที่ 23 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาที่ 1-3 ความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงาน อัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป” อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 191 วรรคแรก
เหตุเกิดที่ บริเวณห้องน้ำชายชั้น 9 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้
ต่อมาผู้ต้องหาที่ 2-3 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 2, 3 ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นขบวนการ และอุกอาจ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้งสาม ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง
2. น.ส.กัญญามาส ได้ทำการบันทึกให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือพอสรุปได้ว่าเวลาประมาณ 07.00 น.มาที่ศาลอาญาตามปกติของการสืบคดี เมื่อมาถึงพบนายประสิทธิ์ตนจึงได้บอกว่าไม่สามารถสลับ กระเป๋าตามที่นายประสิทธิ์สั่งการไว้ และถามหาเงินที่ให้ตนเตรียมไว้โดยให้หยิบใส่กระดาษ ต่อมา นายประสิทธิ์ ได้เดินออกจากห้องเพื่อไปเข้าห้องน้ำ และตนได้เดินตามออกมาถึงได้ทราบว่า นายประสิทธิ์ ได้วิ่งหลบหนี และถูกควบคุมตัวไว้ได้ (ตามบันทึกถ้อยคำที่แนบ) ต่อมาพร้อมด้วย นายณัฐนันท์ ได้นำพาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้นายประสิทธิ์ฯเมื่อหลบหนีไปได้
3. นายณัฐนันท์ ได้ทำการบันทึกให้ถ้อยคำเขียนด้วยลายมือพอสรุปได้ว่าเวลาประมาณ 06.30 น.ได้เดินทางมาถึงศาลอาญาได้นำกระเป๋าที่บรรจุรองเท้าของข้าพเจ้า 3 คู่ไปสับเปลี่ยนที่ตู้ล็อกเกอร์รับฝากของ เมื่อไปถึงได้สลับกระเป๋าด้านในไม่ทราบว่าบรรจุอะไร หลังจากนั้น ได้กลับมาที่ศาลอาญา ขึ้นไปยังห้อง 903 เห็นนายประสิทธิ์ มีพฤติกรรมแปลกๆ ถึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้จับตาดู นายประสิทธิ์ให้ดี ต่อมาเห็น นายประสิทธิ์วิ่งหลบหนีลงบันไดตนจึงได้วิ่งตามเพื่อช่วยจับกุมตัวเมื่อมาถึงชั้นสามพบเจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ควบคุมตัว นายประสิทธิ์ไว้ได้แล้ว
4. บันทึกการตรวจยึดโทรศัพท์ ของบุคคลทั้ง 3จากความยินยอม (3 เครื่อง)
5. บันทึกสมัครใจให้เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ของบุคคลทั้ง 3 จากความยินยอม
6. อนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับมอบวัตถุพยานซึ่งเป็นเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว 11 รายการ จากเจ้าหน้าที่ศาลอาญา ซึ่งตรวจยึดได้ที่ตัวนายประสิทธิ์ ขณะถูกจับกุมตัวซึ่งจำเลยได้สวมใส่และพกพา ขณะหลบหนี อีกส่วนหนึ่งได้จากการที่ นายสมประสงค์นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์
เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการจับกุมตรวจยึด คือนายวศิน บุญสนอง เจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์ ส่วนอีก3 ราย คือ ร.ต.อ.ตฤณ รัตนแก้ว, ว่าที่ ร.ต.อ.ณัฐกร จันทร์งาม, จ.ส.อ.ประพันธ์ สุทธหลวง, ส.ต.อ.บัณฑิต ปราทะกา เป็นเจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญา
ประเด็นที่น่าสนใจจากการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณี นายประสิทธิ์ หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ขณะพิจารณาคดี มี นายสมประสงค์ เป็นผู้ส่งมอบเสื้อผ้าให้ (ข้อมูลภาพจากกล้อง และบันทึกให้ถ้อยคำ) 2 น.ส.กัญญามาส เชื่อว่า น่าจะเป็นเจ้าของเงินที่พบยึดได้จากตัว นายประสิทธิ์ ขณะหลบหนีถูกจับกุม (ข้อมูลภาพจากกล้อง) 3. ดอกกุญแจที่ใช้สำหรับไขกุญแจที่สวมใส่นายประสิทธิ์ ยังไม่ทราบว่าได้มาจากที่ใดใครเป็นคน มอบให้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจัดทำบันทึกเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการในการหลบหนีของ นายประสิทธิ์ นี้อีกหรือไม่อย่างไรจะได้ทำการสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐานต่อไป
ต่อมา นายวศิน บุญสนอง ผู้กล่าวหา เป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแลเจ้าหน้าที่เรือนจำประจำศาลอาญาได้รับ มอบอำนาจจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากวันที่ 22 ธ.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.30 น. นายวศิน บุญสนอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแลเรือนจำประจำศาลอาญาได้ไปรับตัวผู้ต้องขังห้องพิจารณาคดีห้อง 903 ระหว่างนั้น นายสุวรรณ โคตรพัฒน์ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้โทรศัพท์ ติดต่อนายวศิน แต่นายวศิน ไม่ได้รับเพราะอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในห้องพิจารณา ต่อมาเวลาประมาณ 10.15 น. นายวศิน ได้เสร็จจากการพิจารณาคดีในห้อง 901 นายวศิน จึงโทรศัพท์หานายสุวรรณ แล้วได้รับแจ้งว่า นายประสิทธิ์ ได้หลบหนีระหว่างที่ควบคุมแต่ขณะนี้สามารถจับตัวได้แล้วกำลังนำตัวมาที่ห้องควบคุมประจำศาลอาญานายวศิน จึงได้เดินทางไปดู นายสุวรรณ แจ้งว่านายประสิทธิ์ได้หลบหนีและตกลงมาจากบันได ชั้น 4 มาที่บริเวณชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บ
สอบถามจาก นายสุวรรณ ได้ความว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.30 น. นายสุวรรณ ได้เบิกตัวนายประสิทธิ์ ไปยังห้องพิจารณาคดี ห้อง 903 เพื่อทำการพิจารณาคดี ต่อมาเวลา ประมาณ 09.50 น. ระหว่างที่อยู่ในห้องพิจารณานั้นนายประสิทธิ์ ได้ขอเข้าห้องน้ำ นายสุวรรณฯ จึงได้พาเดินทางมา โดยที่ขาทั้งสองข้างของนายประสิทธิ์ ได้ใส่กุญแจมือที่ขาไว้ เมื่อถึงห้องน้ำ นายสุวรรณ ได้ให้นายประสิทธิ์ เข้าไปในห้อง ส่วนขับถ่ายภายในห้องน้ำ โดยนายสุวรรณ ยืนรออยู่ภายในบริเวณห้องน้ำ ซึ่งนายสุวรรณ ไม่เห็นว่านายประสิทธิ์ เข้าห้องน้ำที่ห้องใด นายสุวรรณ จึงเฝ้าอยู่ ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. นายสุวรรณ สังเกตุเห็นมีคนเดินออกมาโดย สวมเสื้อสีฟ้า สวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาล โดยไม่ได้ใส่ชุดเรือนจำ ใส่หน้ากากอนามัย แต่ นายสุวรรณ จำได้ว่า คือ นายประสิทธิ์ จึงเรียกให้หยุด แต่นายประสิทธิ์ไม่หยุดกลับวิ่งหลบหนี นายสุวรรณ จึงวิ่งไล่ติดตามลงมาจนถึงบริเวณชั้น 3 ซึ่งนายประสิทธิ์ ตกลงมาถูกราวบันไดจนได้รับบาดเจ็บ นายสุวรรณ จึงได้จับกุมตัวไว้ได้ หลังจากนั้น นายสุวรรณจึงได้แจ้งเหตุการณ์ให้นายวศิน ได้ทราบเหตุการณ์ที่นายประสิทธิ์จะได้หลบหนี
ต่อมาในวันที่ 23 ธ.ค. 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาที่ 1-3 ความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงาน อัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป” อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 191 วรรคแรก
เหตุเกิดที่ บริเวณห้องน้ำชายชั้น 9 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ ต่อมาผู้ต้องหาที่ 2-3 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 2, 3 ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นขบวนการ และอุกอาจ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้งสาม ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“กรมคุก” ลงโทษข้าราชการผิดวินัย 9 ราย “รับสินบน-ขาดงาน-มีมลทิน
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121442
อุกอาจ! “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” วางแผนหนีขณะฟังพิจารณาคดี ทำทีขอเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมหนี แต่ไม่รอด https://mgronline.com/crime/detail/9650000121303
“ราชทัณฑ์”สั่งหาตัวคนนำเสื้อผ้า-กุญแจสำรองซุกห้องน้ำศาล ช่วย “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก”หลบหนี https://mgronline.com/crime/detail/9650000121405
โฆษกศาลแถลง “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” พยายามหลบหนี รวบผู้เกี่ยวข้องแล้ว 3 ราย เป็นเลขาฯ พร้อมแฟนสาว https://mgronline.com/crime/detail/9650000121450
สารภาพแล้ว 2! ป.เตรียมรับโอนคดีวางแผนพา “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” หนีศาล
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121541
เค้นสอบคนสนิท “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121554
“บิ๊กก้อง” เชื่อ จนท.รัฐเอี่ยวเตรียมกุญแจให้ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ไขโซ่ตรวนในห้องน้ำศาล
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121700
ตร.เค้นสอบ “สมประสงค์” สารภาพนำเสื้อผ้าให้ “ประสิทธิ์” เปลี่ยนในห้องน้ำหลบหนี เพราะอยากได้เงินคืน อ้างไม่ได้เตรียมล่วงหน้า
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121823
พบกุญแจความมั่นคงหาย 2 ดอก คาด “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” แอบอมไว้ในปาก ก่อนไขโซ่ตรวนในห้องน้ำศาล
https://mgronline.com/crime/detail/9650000121850