นายชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแถลงการทำคดีเครือข่าย “ตู้ห่าว” ทุนจีนสีเทา พร้อมแสดงเชิงสัญลักษณ์ชูใบแดงให้ ผบช.น. ลาออก หลังพบพิรุธในการทำคดี
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตั้งโต๊ะแถลงเกี่ยวกับการทำคดีเครือข่าย “ตู้ห่าว” นายทุนจีนทำธุรกิจสีเทา โดยระบุว่า อยากให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากตนเองในฐานะประชาชนไม่สามารถไว้วางใจได้ โดยเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ตนได้รับแผนผังข้อมูลเส้นทางการเงินที่ควรจะอยู่ในสำนวนคดีตู้ห่าวมาจากตำรวจนายนึง ซึ่งเป็นตำรวจน้ำดีที่อยากจะเอาเรื่องนี้ออกมาพูดแต่ไม่สามารถพูดได้ ในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) เวลา 11:00 น. ตนเองจะนำไปมอบให้การกับคณะอัยการสูงสุด ที่ สำนักงานอัยการคดีอาญา-คดีแพ่งตลิ่งชัน
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า เส้นทางการเงินตามแผนผัง จะเห็นเรื่องของการโอนเงินไปมา โดยบัญชีจินหลิง โอนไปยังนายฟูจิ ซิง ซึ่งมีคดียาเสพติด และ นายหยาง เฉิน ซึ่งได้หนีไปแล้ว จากนั้นบัญชีนายหยางเฉิน ได้โอนไป-มา กับนายเซ็นบิ เฉิน และ นายสิทธิพงษ์ ซึ่งเป็นบัญชีม้า ในท้ายสุดบัญชีนายสิทธิพงษ์โอนไปยัง บริษัทที่มีนายตู้ห่าวเป็นกรรมการบริษัท ถือหุ้นถึงร้อยละ 50 โดยบุคคลสำคัญในบริษัทแห่งนี้ คือ นายจีนฟู ซึ่งเป็นผู้จัดการ และเป็นคนใกล้ชิดของนายตู้ห่าว ตนจึงอยากถามว่า ข้อมูลชัดขนาดนี้ ทำไมตำรวจถึงยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินอีก และมีการเรียกใครในนี้มาสอบปากคำแล้วหรือไม่
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังแนะนำให้ ผบช.น. เข้าเครื่องจับเท็จ ถ้าหากไม่เข้าก็ขอให้ลาออกไป และขอให้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้อีกด้วย เนื่อจากไม่ไว้วางใจการทำงานของ ผบช.น. และขอท้าให้ไปสาบานด้วยกันที่สนามหลวงว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ถ้าหากจะฟ้องกลับตนก็ยินดี และพร้อมที่จะเปิดหลักฐานสู้ในชั้นศาล
นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า หาก ผบช.น. ไม่มีการตั้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งๆ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจน อาจจะต้องโดนแจ้ง ตามมาตรา 157 และ มาตรา 200
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ เชื่อว่า ที่ไม่กล้าดำเนินคดี เพราะกลัวจะมีปัญหากับนักการเมือง ตำรวจทั้งใน และนอกราชการ ส่วนข้อสังเกตที่ว่า ผบช.น. ยังไม่แจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพราะกลัวโดนฟ้องกลับ ตนมองว่าไม่ใช่เหตุผล
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเป่านกหวีด และแจกใบแดงเพื่อเป็นการขับไล่ พล.ต.ท.ธิติ ออกจากตำแหน่ง ผบช.น. โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ท่านทราบตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่ามีเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งหลายเส้นสามารถสืบถึงนายตู้ห่าวได้ แต่กลับเพิกเฉย และไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน