ศาลอาญาธนบุรี ไม่ให้ประกันตัว “พีรสิน” คนขับกระบะขายพริก มือยิงคู่ริดับบนโรงพักหลักสอง แม้ญาติยื่นประกันแต่ศาลชี้พฤติการณ์ร้ายแรง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ศาลอาญาธนบุรี พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง นำตัว นายพีรสิน กุลชุติสิน คนขับรถกระบะขายพริก อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน ติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดิน ระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน” อนุญาตฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 17-28 ธ.ค.
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายพีรสิน ผู้ต้องหาซึ่งถูกชกต่อยบาดเจ็บ ได้เตรียมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายแบบคาดเอวเพื่อเตรียมก่อเหตุยิง นายคมสัน อินทร์ฤทธิ์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นคู่กรณีในคดีทำร้ายร่างกายกันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัสตามคดีอาญาที่ 1588/2565 โดยพนักงานสอบสวนมีการนัดเจรจาค่าสินไหม ทดแทนในคดีดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาพร้อมแฟนสาว เดินทางมาถึงบริเวณภายในห้องทำงานพนักงานสอบสวน ชั้น 2 สน.หลักสอง แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. ในเวลาประมาณ 14.34 น. ขณะที่ ผู้ต้องหา กำลังเจรจาค่าสินไหมทดแทนกับนายคมสัน (ผู้ตาย) อยู่นั้นผู้ต้องหาได้ล้วงอาวุธปืนพกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ HK จากภายในกระเป๋าสะพายแบบคาดเอวแล้วใช้อาวุธปืนยิงนายคมสัน และ นายอนุสรณ์ วิชาธร (ทนายความ) บริเวณด้านหลังในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ จำนวนประมาณ 8 นัด ทำให้ นายคมสัน เสียชีวิต และ นายอนุสรณ์ ได้รับบาดเจ็บ โดยนายอนุสรณ์ ถูกกระสุนจำนวน 2นัด เข้าที่บริเวณ ด้านหลังหัวไหล่ซ้าย จำนวน 1นัด และเข้าที่บริเวณด้านหลังข้างซ้าย ใต้ราวนม จำนวน 1 นัด
เหตุเกิดบริเวณห้องทำงานพนักงานสอบสวน ชั้น 2 สน.หลักสอง แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288(4), 371, 376, 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง คำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2519) ข้อ 3, 6, 7 ต้องระวางโทษประหารชีวิต
ในชั้นสอบสวน นายพีรสิน กุลชุติสิน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา
ท้ายคำร้องหากผู้ต้องหาขอให้ปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่า จะหลบหนี และภรรยาผู้เสียชีวิต ผู้เสียหายขอคัดค้าน เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัย
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ญาติของนายพีรสิน ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมยินยอมให้สวมใส่กำไล EM
ศาลอาญาธนบุรี พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ข้อหามีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะ เป็นการกระทำอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และภรรยาของผู้ตายคัดค้าน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีจึงให้ยกคำร้อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี