อุทาหรณ์พ่อแม่วัยใส เผลอปล่อยลูกวัย 1 เดือน กับหลานๆ ดันทำโทรศัพท์มือถือหล่นกระแทกจมูกเจนเป็นแผลในโพรงจมูกเลือดไหล
วันนี้(15.ธ.ค.)เมื่อเวลา 17.30 น.นายมนูญ บุพบุญ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้ง รหัสท่าข้าม 007 ได้รับการประสานจากศูนย์เอราวัณ ขอสนับสนุนรถนำส่งเด็กหญิงวัย 1 เดือน 5 วัน ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถูกโทรศัพท์มือถือตกใส่ใบหน้าทำให้มีเลือดออกจากจมูก บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 2 แขวงและเขตจอมทอง กทม.จึงรุดนำกำลังไปตรวจสอบ พบ น.ส.แพรวพราว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี กำลังอุ้ม น้องกระแต (นามสมมุติ) อายุ 1 เดือน 5 วัน บุตรสาวเอาไว้ในอ้อมกอด โดยมี นายแจ๊คสัน (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผู้เป็นสามีและบิดาของน้องกระแต เฝ้าประคองลูกเมียอยู่ไม่ห่าง
จากการสำรวจบาดแผลตามร่างกายของ น้องกระแต นั้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่มีคราบโลหิตไหลออกมาจากรูจมูกทั้ง 2 ข้าง เบื้องต้นตรวจสอบสิทธิ์การรักษาตัว ของน้องกระแต อยู่ที่ รพ.ราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑล แต่เนื่องจากสภาพการจราจรกำลังติดขัด ประกอบกับพ่อและแม่เด็กมีอาการกระวนกระวายใจเนื่องจากเป็นห่วงลูกมาก จึงรีบนำตัวน้องกระแต ส่งให้แพทย์ รพ. สมเด็จพระปิ่นเกล้า (โรงพยาบาลทหารเรือ) ทำการรักษาจนอาการปลอดภัย สอบถาม นายมนูญ ให้ข้อมูลว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กทารกได้รับบาดเจ็บ ก็รีบนำรถมารับตัวตามคำร้องขอ
จากการสอบถามพ่อและแม่เด็กยอมรับ ว่า ประมาทปล่อยลูกน้อย อยู่กับหลานๆ ซึ่งยังเป็นเด็กเล็กด้วยกันที่บ้านพักใน สุขสวัสดิ์ซอย 2 โดยคล้อยหลังปล่อยลูกคลาดสายตาเพียงครู่เดียวก็พบว่า จู่จู่น้องกระแต มีคราบโลหิตไหลออกจากจมูก พอเค้นสอบหลานๆ จึงทราบว่ามีเด็กทำโทรศัพท์มือถือตกใส่ใบหน้าน้อง จนเกิดเป็นแผลภายในโพรงจมูกและทำให้มีเลือดไหลออกมา พอตั้งสติได้จึงรีบติดต่อนัดหมายหน่วยกู้ภัยให้มารอรับที่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 2 ก่อนนำตัว น้องกระแต ส่งแพทย์ทำการรักษา ได้ทันท่วงที จึงอยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ จากเหตุการณ์นี้ว่า ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กอยู่กันตามลำพัง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงขึ้นได้.