xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษกอัยการเผย คดีหนุ่มป่วยจิตหลอน บุกร้านชำ แย่งปืนลูกซองปืนลั่นดับ ยังไม่ฟันธงใครผิดข้อหาใด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
รองโฆษกอัยการเผยคดีหนุ่มป่วยจิตหลอน บุกร้านชำถูกเจ้าของคว้าปืนลูกซองออกมาขู่ปืนลั่นดับ ยังไม่ฟันธงใครผิดข้อหาใด ต้องดูสำนวนสอบสวนของตำรวจ ฝากอุทาหรณ์ผู้ดูแลคนวิกลจริตไม่ทำหน้าที่ปล่อยให้ออกนอกบ้านตามลำพัง มีโทษปรับ ไม่เกิน 5,000 บาท

วันนี้ (10 ธ.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กล่าวถึงกรณีปรากฎเป็นข่าวพร้อมคลิปภาพเป็นเหตุการณ์ในจังหวะดเพชรบุรี มีชายป่วยทางจิต เดินเข้ามาชี้หน้าโวยวายชวนเจ้าของร้านสะดวกซื้อทะเลาะวิวาท โดยเจ้าของร้านได้ก้มลงหยิบอาวุธปืนลูกซองยาว ภายในร้านออกมา เพื่อข่มขู่ให้ออกไปจากร้าน แต่ถูกพุ่งเข้ามาแย่งอาวุธปืนและชกเข้าที่ใบหน้าจากนั้นขณะชุลมุนยื้อแย่งกันปืนลั่น 1 นัด กระสุนถูกท้องผู้ตายจนล้มลง ซึ่งต่อมาเจ้าของร้านพยายามปฐมพยาบาลช่วยชีวิต และให้ภรรยาโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกรถพยาบาลมารับไปทำการรักษา แต่ปรากฏว่าผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ซึ่งก็มีรายงานว่าชาวบ้านที่อยู่ละแวกที่เกิดเหตุเเจ้งว่า ผู้ตายเป็นผู้ป่วยอาการจิตหลอน เนื่องจากเคยติดยาเสพติด และที่ผ่านมามีพฤติกรรมก่อกวนชาวบ้าน

ว่า ทุกครอบครัวที่มีคนวิกลจริตนั้นมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องดูเเลคนวิกลจริตให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย ถ้าหากว่าคนดูเเลเกิดปล่อยคนวิกลจริตออกไปนอกบ้าน กฎหมายอาญา มาตรา 373 บัญญัติไว้ว่าผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้นออกเที่ยวไปโดยลำพัง ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท คือ แค่ออกจากบ้านไปโดยลำพังก็มีโทษปรับถึง 5,000 บาท แปลว่ากฎหมายมีเจตนาที่จะคุ้มครองครวิกลจริตว่าอยู่ในความดูเเลของใคร ผู้นั้นต้องคอยเฝ้า ดูแลรับผิดชอบ อุทาหรณ์ในเรื่องนี้ตนของฝากข้อคิดว่า คนที่ดูแลผู้ตายซึ่งตามข่าวบอกว่าวิกลจริต จะต้องรับผิดตามมาตรา 373 เพราะถ้าดูแลดีเหตุการณ์ปืนลั่นใส่ในครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น ส่วนคนที่ทำปืนลั่นใส่คนวิกลจริตจนถึงแก่ความตาย จะต้องรับผิดฐานใดเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนรายละเอียดทั้งหมดในที่เกิดเหตุ ให้ได้ความจริงซึ่งตนคงไม่พิจารณาจากภาพ ซึ่งอาจจะได้รายละเอียดไม่หมดที่จะนำไปสู่ข้อกล่าวหาทางอาญาว่าผิดฐานใดหรือไม่อย่างไร และหากมีการทำสำนวนส่งพนักงานอัยการ ทางพนักงานอัยการก็จะให้ความเป็นธรรม ตามสำนวนการสอบสวนเเละกฎหมายต่อไป

“กระบวนการต้องสอบสวนให้ได้ความจริงให้ชัด ภาพที่เห็นมันสามารถดิ้นได้หลายด้าน” รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น