ผู้เสียหายกว่า 10 ราย ร้องทนายรณรงค์ โดนหักเงินออกจากบัญชีธนาคาร หลังผูกไว้กับแอพร้านค้าออนไลน์ชื่อดัง ยืนยันไม่ได้สั่งซื้อของ พบผู้เสียหายกว่า 50 รายเสียหายร่วม 1 ล้านบาท
วันนี้( 6 ธ.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้เสียหายกว่า 10 รายนำเอกสารหลักฐานการแจ้งความและเอกสารยอดเงินจากบัญชีธนาคารที่ถูกหักเงินอัตโนมัติเข้าขอความช่วยเหลือปรึกษาแนวทางกฎหมาย กับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากที่ ผู้ใช้บริการ ยืนยันว่า ไม่ได้มีคำสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น แต่เงินในบัญชีธนาคารที่ผูกไว้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ เกิดปัญหาถูกตัดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติเป็นจำนวนหลายหมื่นบาท โดยไม่ทราบสาเหตุ
น.ส.หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า ส่วนตัวเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้า กับบริษัทshopee บอกว่า บริษัทบังคับให้ผู้ขายผูกบัญชีธนาคาร กับแอป shopee ต่อมา พบความผิดปกติ เมื่อยอดเงินธนาคารส่วนตัว ยอดเงินถูกหักไปอัตโนมัติ รวม 4 ครั้งยอดรวมเป็นเงินกว่า 10,000 บาท
เมื่อทวงถามไปยังบริษัทช้อปปี้ ได้พูดคุยกับตัวแทน Call Center โดยร้องขอให้บริษัทช้อปปี้ และธนาคารพยายามอายัดเงินจำนวนนี้ เพราะยืนยันว่า ไม่เคยทำรายการสั่งซื้อสินค้า แต่บริษัทช้อปปี้ ปฏิเสธว่าไม่สามารถคืนเงินให้ได้ โดยอ้างว่า เป็นรายการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่ไม่เข้าเงื่อนไขการคืนเงิน ขณะที่ผู้เสียหายยืนยันว่า รายการสินค้าที่ถูกหักเงินไป เป็นสินค้าประเภท บัตรเติมเงินเกมออนไลน์ ซึ่งสินค้าประเภทนี้ ต้องห้ามไม่สามารถเข้ามาขายในบริษัทช้อปปี้ ได้ อีกทั้งส่วนตัวไม่เคยมีบัญชีการเล่นเกมออนไลน์ใดๆด้วย
นายเอกราช ปั่นแก้ว ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งอยู่ในฐานะของผู้ซื้อ บอกว่า ผูกบัญชีธนาคารส่วนตัวไว้กับบัญชี shopee pay ซึ่งเป็นช่องทางของ Application ในการชำระค่าซื้อสินค้า โดยพบความปกติมียอดเงินหักบัญชีจำนวน 18 ครั้ง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงยอดรวมความเสียหายกว่า 1 แสนบาท โดยร้านที่มีการหักบัญชีสินค้า กลับพบว่าเป็นร้านเดียวกับที่ผู้เสียหายหลายคนโดน ซึ่งเป็นร้านที่จำหน่ายบัตรเติมเงินเกมออนไลน์เช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่า เงินในบัญชีธนาคารส่วนตัว ยังถูกหักผ่านบัญชี shopee pay ไปในการทำธุรกรรมรายการซื้อสินค้าเติมเงินเกมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อื่นอีกด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่ได้สั่งซื้อ
ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่า บัญชี shopee Play น่าจะโดนแฮก เพื่อนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินในลักษณะนี้หลายครั้งขณะที่ผู้เสียหายพยายามติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธโดยอ้างว่า รายการ การเงินสั่งซื้อขายสำเร็จแล้ว โดยผู้เป็นเจ้าของบัญชีเป็นผู้ทำรายการออนไลน์ / ขณะที่บริษัทช้อปปี้ กลับไม่ได้ให้คำตอบ แต่กลับให้ผู้เสียหายไปแจ้งความตำรวจดำเนินคดีเอง ส่วนร้านค้าที่พบว่า มีการหักบัญชีการซื้อขายไปโดยอัตโนมัตินั้น ผู้เสียหายบอกว่า ปัจจุบันยังเปิดขายสินค้าเติมเงินเกมออนไลน์ ใน shopee ได้อยู่
ด้านนายรณณรงค์ บอกว่า ผู้เสียหาย กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการประสานเพื่อให้ผู้เสียหายรวบรวมข้อมูลเข้ามาเพื่อยื่นเรื่องให้บริษัท shopee คืนเงินภายใน 3 วันกรณีนี้เข้าข่ายองค์ประกอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องรับผิดชอบ แม้ผู้เสียหายเป็นผู้เปิดบัญชีกับธนาคาร แต่เมื่อมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าของบัญชีไปทำธุรกรรมทางเงินเจ้าของบัญชีไม่ได้มีการทำสัญญามอบหมายให้มีบุคคลอื่นเข้าไปทำธุรกรรมถอนเงินด้วยตัวเอง
ทางธนาคารจำเป็นต้องรับผิดชอบ โดยกรณีนี้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาอ้างอิงเทียบเคียงคดีไว้ทั้งนี้ เตรียมประสานผู้เสียหาย รวบรวมพยานหลักฐานยื่นให้ถึงอัยการสูงสุด บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ธนาคารฯ ชดใช้เยียวยากับผู้เสียหายอีกทั้งกรณีนี้ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ตามความผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ฯ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ อีกด้วย