MGR Online - กองปราบตามรวบแก๊งมิจฉาชีพ อ้างเป็นพนักงานแกรมมี่ ตระเวนลักแผ่นซีดีตามห้างสรรพสินค้านำมาวางขายตลาดนัด พบมูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.พิเชษ ชมมณฑา, พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.2 บก.ป. และ ตัวแทนจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายพีรพล แพงศรี อายุ 20 ปี และ น.ส.สุนิภา สุขโต อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.594 , 595/2565 ลงวันที่ 15 พ.ย. 65 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยแสดงเป็นผู้อื่น” พร้อมของกลาง แผ่น CD MP3 USB ค่ายเพลงลิขสิทธิ์แกรมมี่ กว่า 700 รายการ โดยจับกุม นายพีรพล ได้ที่ ตลาดวัดปรก ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และ ส่วน น.ส.สุนิภา จับได้ที่ บ้านเลขที่10/28 ม.4 หมู่บ้านอติมา ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์ กก.2 บก.ป. หลังมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว และรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีดำ ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์แผ่นซีดี หรือ USB ของค่ายเพลงแกรมมี่ ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ พระนครศรีอยุธยา รวมกว่า 20 แห่ง จนได้รับความเสียหายรวมมูลค่า 20 ล้านบาท โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะอ้างตัวเป็นพนักงานของบริษัท แกรมมี่ ก่อนจะทำทีเข้ามาตรวจสอบสินค้าที่วางขายในร้าน
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกพนักงานของห้างว่าทางบริษัทได้ให้มาเก็บสินค้าที่วางขายกลับคืน โดยนำเอกสารใบรับคืนสินค้าที่ทำปลอมขึ้นมาแสดงให้ดูสมจริง จนทำให้พนักงานของห้างหลงเชื่อส่งมอบแผ่นซีดี ให้กับกลุ่มคนร้ายไป จากนั้นมิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็จะนำไปวางขายต่อในราคาถูกตามตลาดนัดต่างๆ หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายพีรพล และ น.ส.สุนิภา จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ขณะกำลังนำแผ่นซีดีเพลงไปวางขายที่ตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ก่อนพาตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักจนสามารถตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพทำมานานกว่า 1 ปี เฉพาะห้วงเวลาแค่เดือน ส.ค. เพียงเดือนเดียว ก่อเหตุ 20 ครั้ง อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 ปี และ เชื่อว่า น่าจะทำกันเป็นขบวนการ จึงนำตัวส่ง สภ.ศรีราชา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป