MGR Online - เลขาฯ รมว.ยธ. รับเรื่อง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ตรวจสอบเส้นทางการเงินกลุ่มนายทุนจีนทำธุรกิจสีเทา ขอดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมเตรียมเอาผิด “สันธนะ ประยูรรัตน์” ฐานกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ และเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำหลักฐานมายื่นให้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พร้อม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบกลุ่มนายทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เผยว่า นายชูวิทย์นำเอกสารมายื่นให้ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มนายทุนจีนเกี่ยวข้องขบวนการฟอกเงินและค้ายาเสพติดเพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ตามขั้นตอน โดยมอบหมายดีเอสไอตั้งเลขสืบสวน คาดใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะรวบรวมข้อมูลว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ รวมทั้ง จะให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ มาดูแลเรื่องของการคุ้มครองพยาน นายชูวิทย์ เนื่องจากเป็นคดีใหญ่สังคมให้ความสนใจและกังวลเรื่องความปลอดภัยจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ดีเอสไอจะพิจารณาตามเงื่อนไขข้อร้องเรียน ทั้ง การฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติด , การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว และ การประมูลงานของรัฐกับกลุ่มนายทุนจีน ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการแสวงหาหลักฐาน
ส่วนทาง นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาในฐานะพลเมืองที่อยากจะช่วยเหลือสังคม เพราะตนเองเห็นความผิดความชั่วร้ายของธุรกิจทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะ นายตู้ ห่าว ที่เป็นนายทุนจีนตัวการใหญ่ ทั้งที่ผ่านมาตนเองนำเสนอข้อมูลต่างๆ ไปแล้วแต่จนตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ ออกหมายเรียก หรือ การไปตรวจสอบ นายตู้ ห่าว เลยแต่อย่างใด ซึ่งตนเองนำข้อมูลที่เป็นเอกสาร ทั้ง เส้นทางการเงิน ข้อมูลกลุ่มนอมินี และข้อมูลทรัพย์สินของ นายตู้ ห่าว ที่มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท มายื่นให้ตรวจสอบ และตั้งข้อสังเกตว่านายตู้ ห่าว นั้นเป็นแหล่งฟอกเงินของใครหรือไม่
ส่วนที่ว่าหลังจากนี้ จะต้องการให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยานหรือไม่ นายชูวิทย์ บอกว่า ตนเองไม่ต้องการที่จะให้คุ้มครองพยาน เพราะตนเองไม่กลัว และเคยผ่านความเป็นความตายมาก่อนหน้านี้
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ที่จะมายื่นหนังสือให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบการเสียภาษีธุรกิจอาบอบนวดของนายชูวิทย์ นั้น โดยทาง นายชูวิทย์ ได้บอกว่า ไม่กลัวและยินดีที่จะให้ตรวจสอบ เพราะธุรกิจอาบอบนวดของตนเองนั้นได้ขายไปหมดแล้ว และไม่รู้ว่าจะอยากตรวจสอบไปทำไม
นายชูวิทย์ กล่าวเสริมว่า ส่วนพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) ที่ตนเองจะไปศาลอาญายื่นฟ้อง นายสันธนะ ในกรณีที่ นายสันธนะกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา และจะฟ้องแพ่งในวันเดียวกัน ซึ่งจะเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท และบอกว่าถือเป็นครั้งแรก ที่ตนเองเป็นโจทก์ในการฟ้องคดี และในวันที่ 23 พ.ย. ตนเองจะไปรัฐสภา เพื่อยื่นเรื่องให้กับ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบและจะเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับนายสันธนะ ที่ตนเองมองว่า เป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอย และยังถูกไล่ออกจากราชการ ถูกถอดยศ แต่กลับไปฟ้องร้องตรวจสอบผู้อื่นไปทั่ว
นอกจากนี้ มีการรายงานข่าวว่า นายสันธนะ ท้าทายให้นายชูวิทย์ อยู่รอตนเองในช่วงบ่าย ซึ่งนายชูวิทย์ ได้บอกว่า ไม่รอให้เสียเวลา เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก เช่น ที่ศาล หรือที่อื่น ขืนรออยู่อาจจะได้มีการ ตบกบาลก็เป็นได้