MGR Online - ผบ.ตร.แถลงปิด กอ.ร่วมฯ เอเปก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนาย ทุกฝ่าย รวมทั้งหน่วยร่วมปฏิบัติร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี พอใจภาพรวมในการจัดการประชุมเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ ขอขอบคุณ ปชช. ที่ให้ความร่วมมือ ในด้านการปิดปรับเส้นทางจราจรทั้งวันซ้อม วันปฏิบัติจริง ตลอดจนงดใช้สถานีรถไฟฟ้าศูนย์ประชุมสิริกิติ์ สวนเบญจกิติ
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ในฐานะ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก แถลงปิดกองอำนวยการร่วมฯ ที่ปฏิบัติงานระหว่าง 14- 20 พ.ย. 2565
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์การประชุม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยและการจราจร ถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีภารกิจที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยยังคงเหลือเขตเศรษฐกิจเอเปก 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ ปาปัวนิวกินี จีนไทเป สหรัฐอเมริกา และ ฮ่องกง จะเดินทางกลับประเทศตามกำหนดการทั้งหมดในวันนี้ และกองอำนวยการร่วมฯ ยังต้องคงความเข้มข้นในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมฯ บูรณาการทุกภาคส่วน ปฏิบัติภารกิจต่างๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมฯ นั้น ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ดังนี้
1. การรับแจ้งเหตุ 1599 (22 สาย) และ 191 (34 สาย) รวมจำนวน 56 เรื่อง ตรวจสอบและดำเนินการเรียบร้อยทุกเรื่อง
2. การยื่นข้อเรียกร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 เรื่อง
3. บุคคลทิ้งสิ่งของ (ถังดับเพลิง) ลงไปยังพื้นผิวการจราจรวันที่ 14 พ.ย. 65
4. จับกุมอาวุธมีด 4 ราย ปืนพก 1 ราย (18 พ.ย. 65) และโดรนผิดกฎหมาย 1 ราย (17 พ.ย. 65)
5. ตรวจพบเหตุวัตถุต้องสงสัย 8 ราย (รถยนต์ 1 รถจักรยานยนต์ 1 สิ่งของต้องสังสัย 6)
6. ดำเนินคดีบุคคลบุกรุกเข้าไปในงานเลี้ยงรับรองฯ 4 ราย (หอประชุมกองทัพเรือ)
8. การชุมนุมสาธารณะในพื้นที่ กทม. จำนวน 13 กลุ่ม โดยมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุม 25 ราย ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ประมาณ 10 กว่าราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย อยู่ระหว่างพักรักษาตัวโรงพยาบาล 1 รายและทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหลายราชการ (รถกระบะ 4 คัน ฯลฯ) อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนฯ ตำรวจเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย สาเหตุจากโรคประจำตัว
ภาพรวมการใช้กำลังทุกภาคส่วน จำนวนกว่า 30,000 นาย การนำขบวนผู้นำเขตเศรษฐกิจ คู่สมรส และรัฐมนตรี จำนวนกว่า 508 เที่ยว ตลอดห้วงระยะเวลาการประชุม
ผบ.ตร. กล่าวต่อไปว่า แม้ในวันนี้เป็นการประชุมปิดกองอำนวยการร่วมฯ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชรรอง ผบ.ตร.(บร) ติดตามทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จสิ้น และเรียบร้อย ในแต่ละภารกิจ ตรวจสอบสถานภาพกำลังพล ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ กำชับการเบิก-จ่ายงบประมาณและถอดบทเรียนการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง กับภารกิจของหน่วยในทุกๆ ด้าน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับชาติฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยฯ และตนเองในนามผู้บังคับบัญชาของ ตร. ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ขอขอบคุณประชาชนที่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี และให้ความร่วมมือ ในด้านการปิดปรับเส้นทางการจราจรทั้งวันซ้อมและวันปฏิบัติจริง ตลอดจนการการใช้สถานีรถไฟฟ้า สวนเบญจกิติ และอื่นๆ
“ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ทุกนาย และทุกหน่วยที่ร่วมปฏิบัติ ที่ได้ตั้งใจและเสียสละ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พิธีการคนเข้าเมือง ตลอดจนภารกิจที่เกี่ยวข้องด้านต่างๆ ในการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมตลอดห้วงระยะเวลาในทุกๆ การประชุม ขอเรียนให้ทราบว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ไม่ว่าท่าน จะปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ สถานที่ใด ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับประเทศชาติ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการประชุม อย่างสมเกียรติและสมศักดิ์ศรี สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ นานาประเทศต่างชื่นชมและกล่าวขอบคุณประเทศไทยในการ จัดการประชุม ครั้งนี้” ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้าย