สาวโร่แจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด หลังนั่งกินข้าวกับครอบครัว 4 คน ถูกกลุ่มวัยรุ่น 7-8 คน ขี่ จยย.ซ้อนท้ายมากว่า 4-5 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุปาขวดเบียร์ 2 ขวด ใส่รถยนต์ และรถ จยย.ได้รับความเสียหายหลักหมื่น ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 15 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวธนานันท์ ทัตพรวิภาส อายุ 40 ปี อาชีพ พนักงานบริษัท และ นางสาวศศิธร ถึงแสง อายุ 35 ปี อาชีพวิศวกร สองพี่น้อง ว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่น 7-8 คน ขี่ จยย.ซ้อนท้ายมากว่า 4-5 คัน ก่อเหตุปาขวดเบียร์ 2 ขวด ใส่รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีวิค สีเทา ทะเบียน 2 ขก 5997 กทม. และรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีขาว ทะเบียน กตม 248 นครนายก ได้รับความเสียหายหลักหมื่น ก่อนขี่ จยย.หลบหนี
ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าหมู่บ้านดังกล่าว บันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 13 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 22.45 น. พบกลุ่มวัยรุ่นชายกว่า 7-8 คน ขี่ จยย.กว่า 4-5 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซ้อนท้ายเข้ามาบริเวณหน้าหมู่บ้านก่อนไปก่อเหตุที่บ้านผู้เสียหายแล้วขี่จยย.หลบหนี
น.ส.ธนานันท์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกับครอบครัวนั่งกินข้าวกัน 4 คน มีกลุ่มวัยรุ่นขับมาในซอยประมาณ 4-5 คัน มีคนประมาณ 8 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด คาดว่า อายุประมาณ 18-19 ปี ตนกับครอบครัวก็ไม่ได้สนใจ โดยนั่งคุยกันปกติ จากนั้นวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวขับ จยย.วนกลับมาหน้าบ้านตน แล้วปาขวดเบียร์ 2 ขวด ใส่รถยนต์ และรถ จยย.ได้รับความเสียหาย โดยรถ จยย.ที่จอดอยู่หน้าบ้านได้รับความเสียหายบริเวณไฟท้ายรถ จยย.แตก ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหายบริเวณกระจกหน้ารถข้างซ้ายร้าวและกระจกมองข้างเป็นรอย รวมถึงขอบข้างประตูด้านซ้ายมีรอยสะเก็ดขวดเบียร์เต็มไปหมด ซึ่งตนทำเรื่องเคลมประกันไปทั้งหมด 7 ชิ้น แต่ยังไม่ทราบราคา ซึ่งตนมีสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้าน 4 คน ผู้หญิง 3 คน มีแม่ มีตน และน้องสาว กับแฟนของน้องสาว 1 คน ซึ่งคนที่บ้านไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ไปทำงานเช้าเย็นกลับบ้าน ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงคุณแม่ เพราะตอนกลางวันตนกับน้องสาวออกไปทำงานกันหมด เหลือแค่คุณแม่คนเดียวในบ้าน โชคดีที่วันเกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะจากการสังเกตวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่ได้มีเจตนาจะปาขวดเบียร์ใส่คน โดยจงใจปาใส่ที่รถมากกว่า ตนนอนไม่หลับจนถึงตอนนี้ ตนก็คิดไม่ออกว่ามันมาก่อเหตุเนื่องจากสาเหตุอะไร
ตอนนี้ก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด ตนคิดว่า คนก่อเหตุน่าจะอาศัยอยู่แถวนี้ อยากฝากถึงคนก่อเหตุว่า อย่าเอาเป็นแค่คิดว่าสนุกหรือก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง อยากให้มีจิตสำนึก วันนึงถ้าโดนตำรวจจับมาพ่อแม่จะเดือดร้อนไปด้วย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนก่อเหตุมารับผิดชอบ เพราะตนต้องเสียเวลาไปแจ้งความ และต้องเอารถไปเคลมประกัน ทั้งๆ ที่เหตุการณ์นี้มันไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ
น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ตอนนั้นรู้สึกตกใจ เพราะได้ยินเสียงขวดแก้วดังมาก หลังเกิดเหตุและได้ยินเสียงจึงมองที่พื้นเห็นเศษแก้ว จึงได้สติแล้วออกไปดูหน้าบ้าน พบว่า มีขวดเบียร์แตกกระจายเต็มหน้าบ้าน จึงตรวจสอบดูว่ามีความเสียหายตรงไหนบ้าง ตอนแรกไม่คิดอะไรเลย เพราะเรานั่งทานข้าวตรงนี้ทุกวัน กลับบ้านมาครอบครัวก็กินข้าวแบบนี้ทุกวัน และตั้งแต่อยู่มาตนไม่เคยเห็นรถ จยย.ขับมาทีละ 3-4 คัน แบบนี้เข้ามาในซอย ซึ่งตอนที่เกิดเหตุน่าจะโชคดีด้วยซ้ำ เพราะมอเตอร์ไซค์จอดหน้าบ้านเลยแล้วเศษแก้วกระเด็นเข้ามาโดนขา เกือบโดนหัวด้วย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะคุณแม่นั่งหันหลังออกไปทางหน้าบ้าน เศษแก้วที่เป็นชิ้นใหญ่กระเด็นไปทางรถยนต์ ตนกับพี่สาวกวาดบ้านกันอยู่หลายรอบ เพราะมีเศษแก้วเล็กๆ ที่สามารถเหยียบโดนแล้วทำให้บาดเจ็บได้ หากวันที่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายปามาโดนหัวแม่หรือตนก็ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นการที่มาก่อเหตุแบบนี้ตนรู้สึกว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่มีความเกรงกลังกฎหมาย
อยากฝากตำรวจให้ช่วยติดตามเพราะว่าถ้าคนร้ายกลับมาก่อเหตุอีกเกรงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นกว่าเก่า จนถึงขั้นมีคนได้รับบาดเจ็บได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุและตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนกระทั่งพบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายขับขี่รถ จยย.มาจากถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดแล้วเลี้ยวเข้าถนนอำพรไพศาลมาจนถึงหมู่บ้าน หลังก่อเหตุคนร้ายก็ใช้เส้นทางหลบหนีโดยขึ้นสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าถนนชัยพฤกษ์หลบหนีไป จากการตรวจสอบพบว่า รถ จยย.ของคนร้ายไม่ติดป้ายทะเบียนถึง 4 คัน
