รอง ผบ.ตร.แถลงคืบหน้าคดีอดีต ด.ต.ขโมยปืนหลวงจากคลัง สภ.ปากเกร็ด ลุยค้น 34 จุด พื้นที่กทม.และปริมณฑล ยึดคืนมาได้แล้ว 64 กระบอก
วันนี้ (10 พ.ย.) เวลา 16.00 น. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท.และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการติดตามคดีลักขโมยอาวุธปืนหลวง ที่ ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร อดีตผบ.หมู่ ป. สภ.ปากเกร็ด นนทบุรี เบิกจ่ายและทำเอกสารเท็จลักลอบนำอาวุธปืนออกไปจำหน่ายให้บุคคลภายนอก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การตรวจค้นวันนี้ มี 34 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สามารถยึดอาวุธปืน คืนมาได้ 64 กระบอก จากจำนวน 160 กระบอก หลังทางตำรวจ บก.สส.ภ.1 นำหมายค้นตรวจยึดมาและจับกุมผู้ต้องหา 4 รายที่รับซื้อปืนดังกล่าว คือ นายนายธีรวัฒน์ (สงวนนาสกุล) อายุ38 ปี และนายกิตติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ได้บ้านพักย่าน ปากเกร็ด และจับกุมนางสาวรุ่งรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พักอยู่ย่านนนทบุรี และจับกุมนางสาววรรณพร(สงวนนามสกุล)อายุ 24 ปี ได้ที่เขตบางพลัด กทม.
ทั้งนี้การยึดของกลางดังกล่าวตำรวจเข้าตรวจค้นทั้งบ้านและอาคารที่พักพบว่าผู้ต้องหานำปืนไปจำนำกับบุคคลอื่นและเมื่อไม่มีเงินไปไถ่ถอนคืนจะนำอาวุธปืนกระบอกใหม่ไปจำนำต่อกับรายอื่นและบางส่วนนำไปขายตลาดมืด สำหรับปืนที่ผู้ต้องหานำไปขายถูกกระจายใช้ทั่วประเทศรวมถึงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ผู้ที่นำไปใช้ต่อนำสีดำพ่นทับอำพรางตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ปืนอาวุธปืนที่ถูกลักลอบออกไปจาก สภ.ปากเกร็ด ประกอบด้วยอาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. 93 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ขนาด .38 42 กระบอก อาวุธปืนยาว 25 กระบอก รวม 160 กระบอก ติดตามคืนแล้ว 64 กระบอก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า คดีดังกล่าวตำรวจขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง 13 คน จับแล้ว 4 คนทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหารับของโจร ทั้ง 4 คนไม่มีอาชีพหลักแหล่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการพนันทำให้เห็นได้ว่าปืนเหล่านี้ตกไปอยุ่กับกลุ่มบุคคลไม่ดี ส่วนหลังจากนี้จะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยืนยันว่าจะจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนอาวุธปืนที่เหลือจะติดตามกลับคืนมาให้ได้