xs
xsm
sm
md
lg

ปคบ.ทลายเครือข่ายผลิตยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ระดับประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ปคบ. ลุยค้น 11 จุด ทลายเครือข่ายผลิตยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ระดับประเทศ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท


วันนี้ (8 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างจับกุมเครือข่ายผู้ผลิตและขายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ หลังเปิดนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ภูเก็ต รวม 11 จุด แจ้งดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องมากกว่า 80 รายการ มูลค่าประมาณ 70,000,000 บาท

พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับเบาะแสมีผู้ลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม ออกจำหน่ายตามร้านขายยาเป็นจำนวนมาก จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า มีแหล่งผลิตรายใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และมีจุดกระจายสินค้าอยู่ที่ จ.ภูเก็ต อีกทั้งยังมีการดัดแปลงสถานที่จากเดิมเป็นบ้านพัก เพื่อใช้เป็นจุดเก็บขวดเปล่า จุดผสมวัตถุดิบ จุดบรรจุ จุดเก็บผลิตภัณฑ์ และจุดกระจายสินค้า ให้ยากต่อการตรวจสอบ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวทั้ง 11 จุด

พ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึด ยาแก้ไอปลอม 66,750 ขวด, ยาแก้ไอยี่ห้ออื่นๆ (ของจริง) จำนวน 18,600 ขวด, ผลิตภัณฑ์ยาอื่นๆ, วัตถุดิบที่ใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดี จำนวนมากกว่า 80 รายการ มูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท รวมถึงดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายภพ เจริญภัทรโยธิน อายุ 43 ปี น.ส.ชญาภา เจริญภัทรโยธิน อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา และ นายเริงชัย จิตต์อารีย์ อายุ 46 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันผลิตและจำหน่ายยาปลอม และ ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” นอกจากนี้ ในขณะที่เข้าตรวจค้นยังได้ทำการจับกุมตัว นายอนุพงษ์ เรืองธัมรงค์ อายุ 35 ปี ลูกน้องของนายเริงชัย ในข้อหา “ครอบครอบอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” อีกด้วย หลังพบมีการครอบครองอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืน จำนวน 44 นัด

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของ นายภพ และ น.ส.ชญาภา สองสามีภรรยา โดยให้ นายเริงชัย ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลการผลิต และให้ นายสุนันท์ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนายภพ ดูแลด้านการเงินและการจัดจำหน่าย ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานติดต่อจะขอเข้ามอบตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขบวนการดังกล่าวลักลอบผลิตและจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2562 เริ่มจากผลิตยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Datissin (ฝาแดง) กระทั่งต้นปีที่ผ่านมา จึงเริ่มเปลี่ยนมาผลิตยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Diphenyl (ไก่แดง) แทน ส่วนยาแก้ไอปลอมยี่ห้ออื่นๆ ที่ตรวจยึดได้อีกนั้น ทราบว่าเป็นการสั่งซื้อมาจากบุคคลอื่น อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล

พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จากแนวทางสืบสวนยังทราบว่า รูปแบบการผลิตยาแก้ไอปลอมของขบวนการดังกล่าวจะเริ่มจากการสั่งซื้อน้ำเชื่อมกลูโคส หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล, กลิ่นราสเบอร์รี่ เฟเวอร์ และมีการสั่งผลิตฉลากปลอมจากบริษัทต่างๆ ในพื้นที่ กทม. อีกทั้งยังพบว่า เครือข่ายดังกล่าวมีการกระสินค้ายาแก้ไอปลอมไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น กทม., ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, นครปฐม, สมุทรสาคร, ภูเก็ต, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี และ อุบลราชธานี โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 64 ถึงปัจจุบัน เครือข่ายของนายภพ มีรายได้จากการจำหน่ายยาแก้ไอปลอมมากกว่า 80 ล้านบาท








กำลังโหลดความคิดเห็น