MGR Online - รมว.ยุติธรรม ลุย “พิษณุโลก” ร่วมภาคีเครือข่ายหวังแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมยึดทรัพย์ตามกฎหมายใหม่ หลังแพร่ระบาดรุนแรงในพื้นที่
วันนี้ (7 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล คอนเวนชั่นฮอลล์ จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบนโยบายโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด รองรับประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมี นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. , พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 และ นายสมาน นวลเกิด ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วม
นายสมาน กล่าวว่า การจัดโครงการนี้ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ต้องการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งจะเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติดให้กับประชาชนเพื่อจะได้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการช่วยกันแจ้งเบาะแสยาเสพติด โดยจะช่วยทำให้สังคมมีความเข้มแข็ง ในการร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนในหมู่บ้านเพราะการแก้ปัญหาจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้นำชุมชน ประชาชน ในการช่วยกันสอดส่อง ไม่ให้มีคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ได้เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด ด้วยการแก้กฎหมายยาเสพติด กว่า 24 ฉบับ มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อเน้นตัดวงจรยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จึงทำให้การแก้ปัญหายาเสพติด เน้นไปที่การยึดอายัดทรัพย์ อย่างปี 2565 สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 11,003 ล้านบาท ทำให้ปีนี้ มีการตั้งเป้าอายัดทรัพย์ 1 แสนล้านบาท ซึ่งผ่านมาเพียง 1 เดือน สามารถอายัดทรัพย์ได้แล้ว 3,178 ล้านบาท โดยที่ตั้งเป้าถึง 1 แสนล้านบาท เพราะกฎหมายใหม่สามารถให้ยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี แต่เป้าหมายยึดทรัพย์จะสำเร็จได้ ทุกภาคส่วนต้องเข้าใจกฎหมายใหม่นี้ก่อน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ทุกคนต้องตื่นมาร่วมมือกันแก้ปัญหายาเสพติด เพราะถ้าเราไม่ตัดวงจรผู้ค้ายา ยาเสพติดก็จะถมประเทศไทย ดังนั้น เราต้องช่วยกันยึดอายัดทรัพย์ เพื่อตัดวงจร เพราะถ้ายึดแต่ยาเสพติด เขาก็จะยังมีเงินหมุนเวียนไปกระทำผิดอยู่ ซึ่งคนแจ้งเบาะแสยาเสพติด จะได้รางวัลนำจับ 5% เจ้าหน้าที่จะได้ 25 % ส่วนการแจ้งเบาะแส ที่ประชาชนยังกลัวคนขายยานั้น รัฐบาลจึงคิดระบบแจ้งเบาะแสยาเสพติด ด้วย Blockchain และจ่ายเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี่ ที่มีชั้นความลับสูงมาก ดังนั้น ที่บอกว่าแจ้งเบาะแสยังไม่ทันนั่ง คนขายยารู้แล้วก็จะเปลี่ยนไป
“ขณะนี้ ยาบ้า มีกำลังการผลิตเยอะกว่าเดิมหลายเท่าตัว จากเดิมวันละ 6 หมื่นเม็ด เป็น 4 ล้านเม็ด ทำให้รัฐบาล ต้องชะลอการนำเข้า-ส่งออก สารโซเดียมไซยาไนด์ และสารเบนซิลคลอไรด์ ที่ถูกนำไปผสมเป็น เบนซิลไซยาไนด์ กลายเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด เพราะจากข้อมูล แต่ละปี นำเข้ามา 1,150 ตัน แต่ส่งออกเมียนมาร์ถึง 810 ตัน ซึ่งคำนวนผลิตยาบ้าได้กว่า 17,000 ล้านเม็ด ดังนั้น จึงมีการคุมเข้มการใช้สารเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ไปถึงมือผู้ค้ายาเสพติดได้” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยาเสพติด เป็นสิ่งที่อันตรายต่อสังคมเป็นอย่างมาก อย่างข่าวสะเทือนขวัญ จ.หนองบัวลำภู ก็พบว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติใช้ยาเสพติด ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ก็ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ ซึ่งล่าสุดก็เกิดกรณีผู้เสียชีวิตแต่มีลูกในครรภ์ด้วย โดยครอบครัวได้รับเยียวยาเพียงคนเดียว ลูกที่อยู่ในครรภ์ไม่ได้สิทธิ เพราะยังไม่เป็นบุคคลตามกฎหมาย แต่ตนก็มาดูระเบียบแล้ว สามารถอุทธรณ์ได้ ซึ่งคณะกรรมการก็จะดูความเสียหายของแม่ว่ามีลูกในครรภ์ โดยก็จะเสียหายมากกว่าคนอื่นทำให้อาจจะมีการพิจารณาเพิ่มเงินตอบแทนค่าเสียหายเพิ่มให้