ทีมงานเพจ “สายไหมต้องรอด” พา 5 เซียนพนันถูกบ่อนรามอินทรา อุ้มรีดเงินกว่า 5 ล้านบาท ร้อง รอง ผบ.ตร. พร้อมให้ข้อมูลบ่อนพนันกว่า 100 แห่ง ทั่ว กทม.-ปริมณฑล
วันนี้ (31 ต.ค.) ที่ สโมสรตำรวจ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ และทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาเซียนพนัน 5 ราย ผู้เสียหายที่ถูกบ่อนพนันย่านรามอินทรา อุ้มตัวไปปล้นทรัพย์กว่า 5 ล้านบาท หลังกล่าวหาว่าร่วมกันโกงพนัน เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อให้ข้อมูลเรื่องบ่อนการพนันกว่า 100 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ผู้เสียหายรายหนึ่ง เผยว่า จะนำข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนันมามอบให้ รอง ผบ.ตร.แต่ยังเปิดเผยต่อหน้าสื่อไม่ได้ เพราะกลัวอันตราย ทั้งนี้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่า พวกตนไม่ได้ถูกปล้นทรัพย์ ซ้ำยังเดินสายโกงบ่อนการพนัน จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า นายสันธนะ นั้นอยู่ในบ่อนตอนเกิดเหตุ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันด้วยหรือไม่
พร้อมปฏิเสธว่า ไม่เคยโกงเงินจากบ่อนการพนัน เพราะคงไม่มีนักพนันรายใด กล้าไปทะเลาะกับบ่อนพนัน ส่วนเรื่องการใช้โปรแกรมโกงพนันนั้น ถามว่า หากมีอยู่จริงนักพนันทั้งประเทศคงรวยกันไปหมดแล้ว และหากพวกตนโกงจริง ก็คงรวยกันไปแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ส่วนตัวพร้อมถูกดำเนินคดีในฐานะที่เป็นนักเล่นการพนันด้วย แต่การออกมาเรียกร้องวันนี้ เพราะต้องการความเป็นธรรม ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกาย ตนพร้อมจะต่อสู้เต็มที่และเล่าความจริงให้ฟัง ยอมรับว่า หลังเป็นข่าว ตอนนี้คดีเร็วไว ทั้งที่ตอนแรกแทบไม่เดินเรื่อง
ผู้เสียหายอ้างว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีบ่อนการพนันหลายพื้นที่ และผู้มีอิทธิพลก็คอยดูแลผลประโยชน์จากบ่อนพนัน ยืนยันว่า เคยไปเล่นพนันในบ่อนมานับหลายสิบแห่ง และหลายแห่งก็ยังเปิดให้บริการอยู่จนถึงวันนี้ แต่ส่วนใหญ่จะปิดในช่วงเดือนตุลาคม เพราะเป็นฤดูการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ
นายเอกภพ กล่าวว่า จากที่ตนทราบเชื่อว่าพื้นที่ตำรวจนครบาล ไม่น่าจะมีบ่อนการพนัน แต่มีข้อมูลว่าในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ยังคงมีบ่อนเปิดอยู่ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะมอบให้กับ รอง ผบ.ตร.รับเรื่องไว้ต่อไป ส่วนเรื่องที่ นายสันธนะ ออกมาให้ข้อมูลนั้น ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าในประเทศไทยมีบ่อนพนันจริง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เกิดมาหลายเดือนแล้ว ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนจึงเชิญเพจสายไหมต้องรอดให้มาผู้เสียหายมาพบเพื่อตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริง โดยคดีนี้จะแบ่งเป็นเรื่องการอุ้มนักพนันไปกักขังหน่วงเหนี่ยว และหากมีบ่อนพนันมีจริง ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย ซึ่งมีคำสั่งย้าย ผกก.สน.โคกคราม แล้ว สำหรับผู้เสียหายที่ถูกอุ้มไปรีดทรัพย์นั้น ถ้าสืบทราบว่าได้เข้าไปเล่นพนันก็มีความผิดเช่นกัน
ส่วนกรณีผู้เสียหายอ้างว่ามีบ่อนพนันกว่าร้อยแห่งทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 นั้น ถ้าพบว่ามีอยู่จริงก็ต้องกวาดล้างปราบปรามให้หมด ซึ่งตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการสถานีจะต้องทราบว่าในพื้นที่ตัวเองมีบ่อนการพนันหรือไม่ หลังได้รับข้อมูลแล้วพบว่ามีบ่อนการพนันในพื้นที่ใด ตนจะรายงานให้ ผบ.ตร.ทราบ ก่อนเร่งดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาต่อไป