MGR Online - เหยื่อเต็นท์รถมือสองย่านรามคำแหง กว่า 60 คน เดินขบวนร้องกองปราบรับทำคดีถูกหลอกซื้อดาวน์รถ หลังตำรวจท้องที่แค่ลงบันทึกประจำวัน
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 60 คน ที่ถูกเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง หลอกซื้อดาวน์รถ เดินขบวนเพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อให้กองปราบปราม รับคดีดังกล่าวมาดำเนินการ หลังกลุ่มผู้เสียหายเคยไปร้องเรียนมาหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีความคืบหน้า ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น
น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักเต็นท์รถดังกล่าว ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย จึงติดต่อเข้าไปเพื่อจะขายดาวน์รถยนต์ปาเจโร่ ที่ผ่อนมาแล้ว 24 งวด ทางเต็นท์แจ้งว่าจะทำสัญญาเปลี่ยนเจ้าของให้ภายใน 3 เดือน แต่เพียงแค่ 10 วัน ก็มีคนมาติดต่อซื้อรถของตนไป หลังจากขายรถไปแล้ว ตนก็ทวงถามไปยังเจ้าของเต็นท์รถถึงเรื่องการเปลื่ยนชื่อผู้ครอบครอง แต่ทางเจ้าของเต็นท์ก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม และไม่ดำเนินการใดๆ ให้ จนขาดการติดต่อไป จนกระทั่งไฟแนนซ์มาทวงค่างวดกับตน จึงทำให้ทราบว่ายังไม่ได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถ ตนต้องรับภาระในการผ่อนชำระค่างวดต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นสามีของ น.ส.เอ ได้นำบันไดมาปีนโชว์สื่อเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หลังก่อนหน้านี้ เคยไปปีนลานจอดรถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้ว เนื่องจากเกิดความเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะยังต้องผ่อนค่างวดต่อถึงเดือนละ 19,700 บาท ทำให้ครอบครัวมีปัญหาทางการเงินอีกด้วย
ขณะที่ นายบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ถูกเต็นท์รถดังกล่าว หลอกว่าจะปิดยอดเงินผ่อนให้ แต่ทางไฟแนนซ์ยังตามทวงค่างวดกับตนเองอีก จึงไปแจ้งความที่ สน.บางชัน จากนั้นคนที่ซื้อรถของตนเองไปก็ติดต่อกลับมาหาว่าต้องการจะซื้อรถคืนกลับไปหรือไม่ ในราคา 7 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยอมและไปแจ้งความกับสถานีตำรวจที่เจอพิกัดรถ ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ยอมรับแจ้งความ ทำให้ตนเองรู้สึกเป็นทุกข์ใจมาก พร้อมสงสัยว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่
ด้าน ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า การหลอกขายดาวน์รถจะต้องมีการทำเป็นขบวนการ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ขายดาวน์ รถไปกว่า 50 คัน รวมความเสียหายประมาณ 36 ล้านบาท ใครจะอยู่เบื้องหลังนั้นตนยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด จึงต้องการให้กองปราบรับทำคดี เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก และความเสียหายสูง ผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความกับตำรวจหลายพื้นที่ แต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร มีเพียงแค่ 2 โรงพักเท่านั้นที่ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนให้ผู้ที่จะขายดาวน์รถ ว่าจะต้องทำสัญญาซื้อขายรถและเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวด้วย