MGR Online - "อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. สอบ คณะกรรมการทหารเรือ ปล่อย "จ่ากุ้ง" ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด หนีถึง 2 ครั้ง พบข้อมูลขนยาเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา กับเจ้าหน้าที่ทหารที่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการปล่อยตัว จ่ากุ้ง ทหารเรือ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันค้ายาบ้า 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 116 กิโลกรัม ความผิดตามมาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" พร้อมนำเอกสารต่าง ๆ มามอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน โดยมี พ.ต.ท.ภูริต ศรีบุญเรือง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปปป. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือให้ ผบก.ปปป. ดำเนินคดีกับคณะกรรมการของทหารเรือผู้สอบจ่ากุ้ง ผู้ต้องหาดียาเสพติด ที่ถูกจับกุมเมื่อช่วงเดือน ม.ค.64 ก่อนจะมีการคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องประชุม นรข. ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งตามระเบียบการสอบสวน จะต้องนำตัว ผู้ต้องหาเข้ามาสอบสวนในห้องประชุมใหญ่โดยมีนายทหารเฝ้าอยู่ แต่กลับปล่อยให้จ่ากุ้งหลบหนีไปได้ โดยทางคณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวอ้างว่าเป็นช่วงชุลมุน แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการ ให้การช่วยเหลือในการหลบหนี
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหลังจากหลบหนีไปแล้วยังพบข้อมูลว่า จ่ากุ้งยังคงลักลอบค้ายาเสพติดข้ามประเทศอีก 2 รอบ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวอีกครั้งใน วันที่ 7 ก.ค. 64 แต่ในท้ายที่สุดจ่ากุ้งก็สามารถหลบหนีไปได้อีกครั้ง ซึ่งจากข้อมูลเบาะแสล่าสุดพบว่า จ่ากุ้ง ยังคงอยู่ในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.พิษณุโลก เนื่องจากมีพี่เมียเป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่พิษณุโลก ส่วนลูกเมียอาศัยอยู่ที่ จ.หนองคาย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดตามจับกุมตัวแต่อย่างใด
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า จุดประสงค์ที่เดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้เพราะหากปล่อยให้อดีตทหารเรือค้ายาเสพรายนี้ ซึ่งลักลอบค้ามาตลอดตั้งแต่ปี 60 ยังลอยนวลอยู่ และ ยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยต่อไปนั้น โดยมีคนคอยให้การช่วยเหลือ ย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมวงกว้างที่ต้องเผชิญกับปัญหายาเสพติด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งรัดตามจับกุมจ่ากุ้ง มาให้ได้เพราะจะได้สาวไปถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.ภูริต ศรีบุญเรือง สว.(สอบสวน)กก3 บก.ปปป. ได้รับเรื่องดังกล่าวก่อนส่งต่อให้กับทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป