MGR Online - นครบาลขยายผลจับเครือข่ายยาเสพติด ค้นบ้านหรูย่านบางใหญ่ 2 หลัง ยึดไอซ์ เฮโรอีน เค จำนวนมาก ปืนอีก 3 กระบอก ส่งให้ลูกค้าย่านถนนกาญจนาภิเษก กทม.และ นนทบุรี ได้ค่าจ้างเดือนละ 4 แสน พบฟอร์จูเนอร์ที่ใช้ขน ถูกดัดแปลงให้สลับป้ายทะเบียน หลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ตำรวจเตือนอย่าทำตาม ชี้ มีโทษหนัก
วันนี้ (24 ต.ต.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย นามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ชัยกฤษ โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ.แถลงข่าว พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ สปพ.และตำรวจ บก.สปพ.จับกุม นายกิตติศักดิ์ หรือแชมป์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นายจักรพงษ์ หรือแจ็ค (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และ นายสายชล หรือ เต๋า (สงวนนามสกุล) 35 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ 162 กก. เฮโรอีน 120 แท่ง ยาเค 97 กก. อาวุธปืน 3 กระบอก รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 2 คัน โทรศัพท์ 2 เครื่อง ได้บริเวณบ้านเลขที่ 63/61 ซอย 19 หมู่บ้านฮาบิเทีย-บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และบ้านเลขที่ 89/134 หมู่บ้านเพอร์เฟค พาร์ค พระราม 5-บางใหญ่ หมู่ 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสายตรวจ 191 ขยายผลจับกุมผู้ค้ารายย่อยช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พื้นที่ สน.บึงกุ่ม จนทราบว่า นายกิตติศักดิ์ พร้อมพวกรวม 3 ราย มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 2 คัน ไปรับแล้วเก็บซุกซ่อนไว้บ้านเลขที่ 63/61 ซอย 19 หมู่บ้านฮาบิเทีย-บางใหญ่ และบ้านเลขที่ 89/134 หมู่บ้านเพอร์เฟค พาร์ค พระราม 5-บางใหญ่ จากนั้นตระเวนส่งให้กับลูกค้าย่านถนนกาญจนาภิเษก พื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี จึงสืบสวนติดตามเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 23 ต.ค. เวลา 03.00. น. ตำรวจเชื่อว่าจะมีการส่งของ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 63/61 พบปืน 3 กระบอก และบ้านเลขที่ 89/134 พบยาเสพติดทั้งหมดมูลค่า 55 ล้านบาท รถยนต์ และโทรศัพท์
จากการสอบถามผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ทำหน้าที่รับ เก็บ และส่งยาเสพติด เดือนละ 2-4 แสนบาท ตามปริมาณแต่ละงาน เช่าบ้านเลขที่ 63/61 ไว้สำหรับวางแผนงาน และเช่าบ้านเลขที่ 89/134 ไว้พักยา ตรวจสอบมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานาน ล่าสุด นายจักรพงษ์ ถูกจับข้อหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2”พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่น่าสนใจรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 2 คัน ที่ใช้ขนถูกดัดแปลงให้สามารถสลับป้ายทะเบียนได้ทั้งหน้าและหลัง เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของตำรวจซึ่งสั่งการด้วยรีโมต นอกจากนี้ ยังมีเครื่องสัญญาณด้วย เตือนประชาชนอย่าลอกเลียนแบบมีความผิดข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา, เปลี่ยนแปลงแก้ไขทะเบียน พ.ร.บ.ขนส่งทางบก” มีโทษหนัก
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์, เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
