รอง ผบช.ภ.1 เผย คืบหน้าคดี ด.ต. ขโมยปืนหลวงไปขายใช้หนี้พนัน ผลตรวจสอบอย่างละเอียดพบปืนหายทั้งหมด 159 กระบอก ได้คืนแล้ว 30 กระบอก เร่งติดตามปืนที่เหลือ
จากกรณี ด.ต.เชาวลิต ผบ.หมู่ ป. สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขโมยปืนหลวงจำนวนกว่า 100 กระบอก จากคลังอาวุธ สภ.ปากเกร็ด ไปจำนำและขายใช้หนี้การพนัน กระทั่งถูกจับกุมได้ที่ จ.หนองคาย ขณะเตรียมตัวหนีไป สปป.ลาว เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ถูกสั่งย้ายไปเข้า ศปก.ภ.1 ระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่เสนอข่าวไปนัั้น
ความคืบหน้สล่าสุด วันนี้ (21 ต.ค.) ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบปืนหายไปทั้งหมด 159 กระบอก เป็นปืนยาว M16 จำนวน 25 กระบอก ปืนสั้น 134 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนกล็อก 24 กระบอก ปืนซิกซาวเออร์ 68 กระบอก และปืนลูกโม่สมิธแอนด์เวสสัน 42 กระบอก ยืนยันว่า จำนวนปืนที่ สภ.ปากเกร็ด มีนั้น จำนวนเท่ากับกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ ปืนส่วนใหญ่เป็นปืนลูกโม่รุ่นเก่า
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้รับซื้อและรับจำนำปืนจาก ด.ต.เชาวลิต ได้นำปืน 27 กระบอก แบ่งเป็นปืนลูกโม่ 25 กระบอก และปืนเอ็มโฟ 2 กระบอก ใส่กระเป๋าเดินทางมาทิ้งคืนไว้บริเวณสโมสรตำรวจ เนื่องจากกลัวความผิดและโทร.แจ้งบอกเจ้าหน้าที่ไปนำมาเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังตรวจพิสูจน์หาผู้ครอบครอง
สำหรับการขยายผลเข้าตรวจค้น มีผู้รับจำนำและรับซื้อปืน 3 ราย สมัครใจยินยอมให้เข้าตรวจค้นบ้าน ได้ปืนคืนมาอีก 3 กระบอก ขณะนี้ได้ปืนของกลางกลับมาแล้ว 30 กระบอก ปืนส่วนใหญ่ผู้ต้องหาเอาไปจำนำในบ่อน จำนำกับนักพนันด้วยกัน และนักการเมืองท้องถิ่น และช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นหาอาวุธปืนอีกหลายจุดในพื้นที่ กทม. พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ผู้รับจำนำรับซื้อปืนจากดาบตำรวจไป หากสมัครใจนำปืนมาคืนจะพิจารณาความผิดโทษหนักเบาตามพฤติกรรม บางส่วนอาจกันไว้เป็นพยาน
ขณะนี้ตำรวจคุมผู้ต้องหาไปคุมขังที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ จ.สระบุรี ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายค้นให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบพื้นที่ 9 จุดเป้าหมาย ตามที่ ด.ต.เชาวลิต อ้างว่า เป็นจุดที่นำปืนไปจำนำให้กับผู้รับซื้อ โดยพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 จุด ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. และ จ.นนทบุรี แต่ในรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม
พล.ต.ต.พนัญชัย ยอมรับว่า ปืนที่ถูกขายให้กับผู้รับซื้อไปแล้ว ก็เป็นเรื่องยากในการติดตาม เพราะคนทั่วไปรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย และอาจจะกลัวถูกดำเนินคดีย้อนหลัง แม้จะเอามาคืนก็ตาม เพราะเป็นความผิดที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งนี้ ตำรวจพิสูจน์ทราบแล้วว่า มีผู้รับซื้อปืนโดยตรงจากดาบตำรวจ 11 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นเคยในวงพนัน และเมื่อรับซื้อไปแล้วก็มีการขายต่อให้คนอื่นอีกทอดหนึ่ง คาดว่า จะตามปืนคืนกลับมาได้เกือบทั้งหมดโดยเร็ว