ผบก.ป.ยันจับ “ลุงศักดิ์ เสื้อแดง” ตามหมายจับค้างเก่า ไม่มีคำสั่งพิเศษซ่อนเร้น

MGR Online - ผู้การฯ กองปราบยันรวบ“ลุงศักดิ์ เสื้อแดง” ตามหมายจับค้างเก่า ไม่มีคำสั่งพิเศษซ่อนเร้น ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจทุกนายอยู่แล้ว

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีตำรวจกองปราบจับกุมตัว นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ เสื้อแดง อายุ 62 ปี ว่า เป็นการจับกุมตัวตามหมายจับค้างเก่า ที่ทาง สน.ดุสิต ได้ดำเนินการไว้เมื่อปี 64 ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าก็เป็นหน้าที่ของตำรวจทุกนายอยู่แล้ว เมื่อเรามีข้อมูลเบาะแสผู้ต้องหาก็ต้องตามจับกุมตัวเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากนี้ ก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับทาง สน.ดุสิต ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาจะยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวนก็คงต้องเป็นสิทธิของทาง สน.ดุสิต เป็นผู้พิจารณาว่าจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลัง ตำรวจ กก.1 บก.ป. จับกุมตัว นายวีรวิชญ์ ที่อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ก่อนนำตัวเดินทางมายังกองปราบปราม โดยทันทีที่มาถึง เจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งนำตัว นายวีรวิชญ์ ขึ้นไปยังชั้น 3 ของตัวอาคารในทันที เพื่อทำบันทึกจับกุม พร้อมกับทำการสอบปากคำในเบื้องต้น ซึ่งระหว่างที่ นายวีรวิชญ์ ถูกควบคุมตัวอยู่นั้น ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายสื่อมวลชน รวมถึงเพื่อนยูทูบเบอร์ที่มารอให้กำลังใจ

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามหมายจับค้างเก่าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ตรวจพบ จึงต้องนำกำลังไปจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการลงบันทึกจับกุมที่กองบังคับการปราบปรามและอาจนำตัวไปส่งให้ สน.พื้นที่ที่เกิดเหตุ คือ สน.ดุสิต หรืออาจประสานให้ตำรวจ สน.ดุสิต มารับตัวที่กองบังคับการปราบปราม ทั้งนี้ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่เมื่อตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ ณ จุดใด ก็ต้องนำกำลังไปควบคุมตัว ซึ่งที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามก็มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่ามาหลายคดีแล้ว หากทราบว่าอยู่ ณ ที่ใดก็พร้อมไปเข้าจับกุมทันที

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้ น.ส.วรัณยา แซ่ง้อ ผู้ติดตามนายวีรวิชญ์ ขึ้นไปด้านบน ในฐานะบุคคลที่ผู้ต้องหาไว้วางใจ พร้อมกับ นายณัฐพล คุ้มวงศ์สกุล ทนายความส่วนตัว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายวีรวิชญ์ ไปส่งที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับคดีทำร้ายร่างกาย แรมโบ้ อีสาน เมื่อปี 2564