MGR Online - “สายไหมต้องรอด” ร้องทุกข์ต่อ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ช่วยเหลือ เด็กหญิงอายุ 13 ปี ซึ่งถูกรุ่นพี่บังคับให้เสพยาก่อนจะข่มขืนและพ่อค้าขายหมูปิ้งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย เรียกค่าคุ้มครอง หวั่นไม่ปลอดภัย
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) ชั้น 1 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม รับเรื่องจาก ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ นำผู้เสียหายเป็นภรรยาของอดีตตำรวจ ซึ่งมีอาการทางประสาท มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายภรรยา และ หญิงสาวชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชี
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ผู้เสียหายรายแรกเป็นภรรยาของอดีตตำรวจ ซึ่งมีอาการทางประสาท มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายภรรยา ที่ผ่านมาเคยนำตัวสามีเข้ารับการรักษาอาการ แต่สามีมีเหตุจำเป็นต้องออกมาดำเนินการทางเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน จึงไม่ได้กลับไปรักษา ต่อมา สามีได้พาญาติมาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนเกิดความกลัว จึงประสงค์ให้ทางกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือในการคุ้มครองพยาน จึงได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำเนินการพิจารณาเรื่องการคุ้มครองพยาน และมอบหมายให้ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามความคืบหน้าของคดี และนำตัวผู้ต้องหาไปเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า ส่วนรายหญิงสาวชาว จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่โพสต์หางานทางช่องทางโซเชียลมีเดียให้ทำงานในแอพธนาคารแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายสนใจจึงได้ติดต่อไป ปรากฏว่าทางผู้ต้องหาได้มีการแจ้งให้สมัครแอพธนาคาร โดยใช้ข้อมูลผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้มีหมายเรียกและหมายจับผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชี แต่ผู้เสียหายไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปตามหมายเรียกยังสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆ จึงประสงค์ให้ กระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือในทางคดีความ ประสานการเดินทางเพื่อไปทราบหมายเรียก และไปแจ้งความว่าผู้เสียหายถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขจะประสานยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงความยุติธรรมต่อไป
ต่อมา เวลา 14.30 น. “เพจสายไหมต้องรอด” นำผู้ปกครองพร้อมเด็กหญิงอายุ 13 ปี ผู้เสียหายกรณีถูกรุ่นพี่ที่โรงเรียนบังคับให้เสพยา ก่อนจะข่มขืน และ พ่อค้าขายหมูปิ้งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย เรียกค่าคุ้มครอง เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า กรณีแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกาย การพรากผู้เยาว์ การนำยาเสพติดมาให้เสพ ซึ่งกรณีดังกล่าวกระทรวงยุติธรรมได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ ผกก.สน.บางชัน เพื่อให้ดำเนินการตั้งข้อหาเพื่อเป็นประโยชน์ของน้องผู้เสียหายในเรื่องสิทธิที่จะได้รับตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา อีกทั้งจะได้เร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ติดตามเรื่องของการมียาเสพติดจำหน่ายและนำไปให้กับเยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ
“ยาเสพติด เป็นภัยสังคมร้ายแรงที่กระทรวงยุติธรรมไม่เคยมองข้าม โดยท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น จับยาเสพติดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ซึ่งในเวลานี้ได้ดำเนินการคู่ขนานกันไป สำหรับกรณีนี้รับเรื่องและแจ้งให้ผู้เสียหายได้รับสิทธิตลอดจนหากว่ามีผู้มีอิทธิพลใดก็ตามใช้สิ่งที่ไม่ถูกต้องมารบกวนผู้เสียหาย จะดำเนินการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพโดยให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานดำเนินการในเรื่องดังกล่าว”
อีกกรณีเป็นเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายของพ่อค้าหมูปิ้ง เนื่องจากมีกลุ่มที่แสดงตนถึงความเป็นผู้มีพรรคพวกมากนำมาทำร้ายร่างกาย และเวลานี้ได้ถูกดำเนินคดี โดยได้แจ้งทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ซึ่งท่านได้รับเรื่องแล้วและจะดำเนินการเกี่ยวกับการจับกุมพวกที่ตั้งตนเป็นผู้เรียกเก็บเงินทั้งหลายหรือพยายามทำตัวเป็นมาเฟีย สำหรับผู้เสียหายได้แจ้งให้รับสิทธิการเยียวยา ตลอดจนมอบหมายให้ชุดคุ้มครองพยานเข้าไปดูแลช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
“กระทรวงยุติธรรมจะเร่งดำเนินการตามเรื่องราวร้องทุกข์เหล่านี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในสังคมได้รับความปลอดภัยและอยู่กันอย่างมีความสุข” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว
