“บิ๊กโจ๊ก” แถลงผู้สื่อข่าวและช่างภาพ CNN เข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไม่มีเจตนาบุกรุก เพราะขอเจ้าหน้าที่แล้ว และประตูเปิดอยู่ คงใช้เวลาถ่ายรูปข้างในเยอะ พอออกมาเห็นว่ามีการปิดกั้นพื้นที่ จึงปีนรั้วออกมา ด้านนักข่าว CNN ขอโทษคนไทย ยินยอมเสียค่าปรับเหตุใช้วีซ่าผิดประเภท พร้อมเดินทางกลับประเทศทันที ตม.ไทยไม่ต้องผลักดัน และอาจไม่ต้องขึ้นแบล็กลิสต์
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.40 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงกรณีผู้สื่อข่าวและช่างภาพ CNN เข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุหลักของโศกนาฏกรรม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบการเดินทางของทีมนักข่าว CNN คือ น.ส.อันนา มาร์เกอรีต โคเรน อายุ 47 ปี ชาวออสเตรเลีย และ นายแดเนียล จอห์น ฮอด์จ อายุ 34 ปี สัญชาติบริติช ได้เดินทางมาจากฮ่องกงเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ และในวันที่ 7 ตุลาคม ได้เดินทางเข้าศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ซึ่งจากการตรวจสอบพยานบุคคลและภาพถ่าย ไม่มีเจตนาบุกรุก เพราะช่วงนั้นมีเจ้าหน้าที่ และประตูเปิดอยู่ ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไป มีคน 6-7 คน อยู่ในศูนย์เด็กเล็ก ในช่วงเวลาประมาณ 10 โมง ถึงเที่ยง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อเข้ามา ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษว่าสามารถเข้ามาได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าเข้ามาได้ ไม่ได้แอบเข้าไป และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้าม คงใช้เวลาถ่ายรูปข้างในเยอะ พอออกมาเห็นว่ามีการปิดกั้นพื้นที่ จึงปีนรั้วออกมา ไม่มีเจตนาบุกรุก หรือละเมิดคำสั่ง หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนพบว่า ทั้งสองใช้วีซ่าท่องเที่ยว จึงถือว่าเป็นการใช้วีซ่าผิดประเภท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดำเนินคดีถอนวีซ่าและเปรียบเทียบปรับ เจ้าตัวยินยอมรับสารภาพ เสียค่าปรับ และยินยอมเดินทางกลับประเทศ ทั้งออสเตรเลีย และอังกฤษ
ส่วนสาเหตุที่เข้าไปบันทึกภาพในศูนย์ฯ นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นไปตามวิชาชีพนักข่าว เก็บภาพให้ได้มากที่สุด ทราบว่า สำนักข่าว CNN ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษถึง 2 ฉบับ ขณะที่ น.ส.อันนา และ นายแดเนียล ไม่สบายใจ พร้อมขอโทษคนไทย ยืนยันว่า สิ่งที่กระทำไปไม่มีเจตนา ซึ่งเห็นว่า ทั้งสองคนไม่มีเจตนาจริง ดูจากภาพ และพร้อมที่จะเดินทางกลับเลย โดย ตม.ไทยไม่ต้องผลักดัน และอาจไม่ต้องขึ้นแบล็กลิสต์