อดีตพนักงานการท่าเรือฯ รวมตัว ร้อง ปปป. ตรวจสอบ ปธ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไม่ยอมจ่ายเงินบำเหน็จตกทอด ตามที่ข้อกำหนด
วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ พากลุ่มอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมตัวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับประธานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย หลังจากพบว่าได้ทำลายหลักฐานการนำเงินเข้ากองทุนฯ และพบว่า ได้เงินไม่ครบหลังจากออกจากกองทุน
นายยงยุทธ รองสกุล หนึ่งในอดีตพนักงานการท่าเรือฯ ที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า ได้ทำงานที่การท่าเรือฯ มากว่า 35 ปี และก่อนที่จะเกษียณอายุได้สมัครเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินบำนาญ เพราะมีการเชิญชวนให้พนักงานเข้าสมัครกองทุนฯ โดยจะมีเงินบำเหน็จตกทอดเข้าให้สมาชิกอีกคนละ 30 เท่าของเงินเดือน รวมทั้งเงินประเดิมเข้าบัญชีที่พนักงานจะโยกเงินบำนาญเดิมของตัวเองเข้าไปในกองทุนฯ
แต่เมื่อเกษียณอายุกลับพบว่าเงินที่ได้มีเพียงเงินประเดิมประมาณ 2 ล้านบาท แต่เงินบำเหน็จตกทอด 30 เท่า ที่เหลืออีกกว่า 4 ล้านบาท กลับไม่ได้ตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้
ทางด้าน ทนายกฤษฎา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า การท่าเรือฯ ได้โอนเงินบำเหน็จตำทอดจำนวน 1,700 ล้านบาท เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานแล้ว และเงินประเดิมรวมกว่า 4,000 ล้านบาท แต่เมื่อพนักงานเกษียณอายุงาน ก็พบกับปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือไปสอบถามกับประธานกองทุนฯ แต่ได้รับหนังสือชี้แจงเป็นหนังสือกลับมาว่า ได้ทำลายเอกสารที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินรายบุคคลไปแล้ว เนื่องจากเป็นเอกสารที่จัดเก็บเกิน 10 ปี
ขณะเดียวกัน ทางอดีตพนักงานได้ไปร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม การแจ้งความวันนี้ ทางอดีตพนักงานต้องการให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะหลักฐานการเบิกจ่ายเงินของการท่าเรือฯ ที่โอนมาให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเหตุใดถึงไม่ยอมจ่ายให้กับพนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุน รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินคดีฐานทำลายเอกสารที่เป็นหลักฐานการนำเงินประเดิม และเงินบำเหน็จตกทอดให้กับสมาชิก และการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
