คนร้ายชายใส่ไอ้โม่ง พร้อมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยว ใช้ปืนขู่พนักงานร้านทองเยาวราช ชิงทองหนักเส้นละ 2 บาท 18 เส้น ในห้างโลตัสคลองสี่ ก่อนควบรถจักรยานยนต์หลบหนีลอยนวล โดยระหว่างวิ่งหนีได้ทำปืนตกหล่นไว้
วันที่ 28 ก.ย. 2565 เวลาประมาณ 19.00 น. พ.ต.ท.บุญเรือง พันธนู พนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างโลตัสคลองสี่ ถนนรังสิต-นครนายก หมู่ที่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ภายหลังรับแจ้งเหตุ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับ พ.ต.ท.ยุทธภูมิ โพธิ์อุดม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ธัญบุรี, พ.ต.ท.ธนกฤต อินภู่ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.ธวัชชัย รัตนพาหุ สวป., พ.ต.ต.กนกนันท์ สุขศรี สวป., ร.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ สมวรรณ รอง สวป., ร.ต.อ.ประดิษฐ์ จันทเพชร รอง สวส., ร.ต.อ.ยงยุทธ อาจกมล รอง สวส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี จำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1 (ศพฐ.1) ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าทองตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าฝั่งตะวันตก ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นบันไดเลื่อน ที่หน้าร้านพบพนักงานหน้าเคาน์เตอร์อยู่ในอาการตื่นตกใจ โดยที่แผงใส่ทองบนตู้โชว์มีสร้อยคอคำแหว่งไปจำนวนหนึ่ง บริเวณช่องบันไดเลื่อนพบอาวุธปืนแบบแม็กกาซีนสีดำตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่เพื่อรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด
ด้าน น.ส.วันวิสาข์ รักผ้า อายุ 23 ปี พนักงานเคาน์เตอร์ร้านค้าทอง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างจะเก็บทองเข้าตู้เซฟเพราะร้านกำลังจะเตรียมปิด มีพนักงานอยู่จำนวน 3 คน ทันใดนั้นได้มีคนร้ายชาย 1 คน ท่าทางแปลกๆ จึงได้เรียกให้ทุกคนในร้านทราบ โดยคนร้ายใส่ไอ้โม่ง ใส่หมวกกันน็อก ใส่แว่น ก่อนจะเข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วก็ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ทุกคนจึงเข้าไปหลบอยู่หลังร้าน ก่อนที่คนร้ายจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปหยิบเอาทองในตู้โชว์ที่ใส่ถาดสร้อยคอ ซึ่งเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างนับจำนวนที่สูญหาย แล้วหลบหนีโดยการเดินย้อนลงบันไดทางขึ้นข้างร้านลงไปก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ขณะเดียวกัน พยานระบุว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ซึ่งดูแลความเรียบร้อยบริเวณประตูทางเช้า พบความผิดปกติของชายดังกล่าวและเดินเข้าไปให้ชายดังกล่าวถอดหมวกกันน็อก แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมถอด ก่อนที่ชายดังกล่าวจะเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปที่ชั้น 2 โดย รปภ.ก็คอยติดตามไป และเป็นจังหวะเดียวกับที่คนร้ายขึ้นไปก่อเหตุเสร็จ เมื่อเห็น รปภ.จึงชักอาวุธปืนออกมา รปภ.จึงตกใจและตกบันไดเลื่อนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะกระโดดจากบันไดเลื่อนอีกฝั่งหนึ่งมาอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้อาวุธปืนตกลงไปกระแทกพื้นบริเวณข้างช่องบันใดเลื่อนจนลำเลื่อน หลุดออกจากตัวปืน ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถ จยย.แบบหญิงสีดำที่จอดอยู่ช่องจอดรถยนต์ล็อกที่ 4 ของช่องจอด B6 แล้วหลบหนีไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อแขนยาวสีดำขีดส้ม กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ เดินขึ้นมาจากบันไดเลื่อน ก่อนจะชักอาวุธปืนข่มขู่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์แล้วไปหยิบสร้อยคอทองคำที่ตู้โชว์ก่อนที่หลบหนีไปทางบันไดทางขึ้น
ด้าน น.ส.นัชชา ขอสงวนนามสกุล อายุ 45 ปี พยานเปิดเผยว่า ขณะนั้นมีฝนตกโปรยปราย โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน มาจอดรถที่ลานจอด ก่อนที่จะเดินเข้ามาที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า แล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะวิ่งออกมา โดยใช้เวลาไม่นาน โดยมีพนักงานร้านค้าทองวิ่งตามมาบอกโจรๆ ก่อนที่จะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่แล้วขับออกไปโดยมีพลเมืองดีขับตามไป แต่คลาดเคลื่อนกัน โดยตนเองจำได้ว่าคนร้ายแต่งตัวรัดกุม ปิดบังใบหน้า และชุดทั้งหมดสีดำ
ทางด้าน พ.ต.ท.บุญเรือง พันธนู สารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับผ่านและหลบหนี พร้อมทั้งสอบปากคำพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าทองรูปพรรณ ที่คนร้ายได้ไปเป็นสร้อยคอทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 18 เส้น รวมน้ำหนัก 36 บาท