กอ.รมน.จังหวัดนนทบุรี พร้อม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา ลงพื้นที่ตลาดท่าอิฐ หลังชาวบ้านร้องเรียน พระสงฆ์ 4 รูป ปักหลักบิณฑบาตหน้าร้านขายอาหาร ผิดธรรมวินัย ก่อนจับสึก 1 ภาคทัณฑ์อีก 3
วันนี้ (23 ก.ย.) กอ.รมน.จังหวัดนนทบุรี ร่วมบูรณาการกับ นายคนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี และ จนท.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ ณ ตลาดสดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีเรื่องร้องเรียนผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี โดยแจ้งว่า มีพระสงฆ์นั่งปักหลักบิณฑบาตบริเวณภายในตลาดสดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยอ้างว่า ตนสังกัดวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ และมีพฤติกรรมชอบพักอาศัยอยู่ที่บ้านไม่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัด จึงเกรงว่า จะเป็นพระปลอมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบพระสงฆ์นั่งปักหลักบิณฑบาตรภายในตลาดสดท่าอิฐ จำนวน 4 รูป จริง (ทราบชื่อ/ฉายา ภายหลัง) ดังนี้ 1. พระภัทรพล โอภาโส สังกัดวัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2. พระสันติ จันทูปโม สังกัดวัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 3. พระทิม ธัมมพินโน สังกัดวัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 4. พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม สังกัดวัดห้วยยางดง ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์
พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณสารูปโดยนั่งปักหลักบิณฑบาตอยู่หน้าร้านขายอาหารใส่บาตรของแม่ค้า ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดพระธรรมวินัย เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ให้ไปพบกับ พระมหาอานนท์ จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดบางนา เจ้าคณะตำบลบางรักน้อย พระวินยาธิการ เพื่ออบรมว่ากล่าวตักเตือน และทำภาคทัณฑ์ไว้ ทั้งนี้พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ยอมรับว่าได้ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณสารูปตามที่มีเรื่องร้องเรียนจริง
ในส่วนของ พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม ที่แอบอ้างว่าตนสังกัดวัดแจ้งศิริสัมพันธ์นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี ได้ตรวจสอบกับเจ้าอาวาสวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองนนทบุรี แล้ว ปรากฏว่า พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม ไม่ได้สังกัดวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ และไม่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแต่อย่างใด แต่สังกัดอยู่ที่วัดห้วยยางดง ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และกลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเองในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ไม่ยอมไปจำพรรษาอยู่ที่วัด และเคยประพฤติตนไม่เหมาะสมแบบนี้ทั้งเสพยาเสพติดจนต้องให้ลาสิกขามาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ดังนั้น พระมหาอานนท์ จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดบางนา เจ้าคณะตำบลบางรักน้อย พระวินยาธิการ จึงเห็นควรให้ พระพัฒนพงศ์ฯ ลาสิกขาจากเพศบรรพชิต เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของพระสงฆ์อีกต่อไป
การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยพ่อค้าในตลาด เล่าว่า บางที 11 โมงยังไม่กลับวัดเลยไม่รู้เขาทำอะไรกัน บางที่ไปเรียนถือหนังสือพระไปเล่มเดียวท่องได้ถึงบ่าย มันเกินไปมันไม่เหมาะสม มันเสื่อม ปกติ 7-8โมง ต้องกลับวัดแล้วตามหลักศาสนา นี้ 9-10 โมงยังอยู่ ก็นั่งเฉยๆ รอให้ใส่บาตไม่ทำอะไรเลย แค่นั้นก็เสื่อมศรัทธาของศาสนาพุทธไปแล้วมันเหมือนธุระกิจ จริงๆ มันต้องเดิน แต่มีรถรับส่งมันก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลย ถ้าอาพาธก็ว่าไปอย่าง แต่นี้กลายเป็นธุระกิจ บางที่มีรถมารับไปถึงวัดรึป่าวก็ไม่รู้ เมื่อก่อนพระตีกันประจำ แย่งของใส่บาตกันจีวรปลิวหลุดไปหมด เพราะแย่งคนใส่บาตกันไม่พอใจกัน จริงๆ ต้องเดินบิณฑบาตตามหลักอยู่กับที่ไม่ได้อยู่แล้ว มายืนบิณฑบาตทุกวัดก็ทำได้สิ ก็ไม่ต้องเดินอยู่กันหน้าวัดก็ได้ มีแต่ไหนแต่ไรแล้วเดินบิณฑบาตไม่งั้นเขาไม่เรียกบิณฑบาตหรอก พระจริงพระปลอมก็ดูอยากเพราะว่าเดี๋ยวนี้เยอะ และอีกอย่างต่างคนต่างไม่สนใจหรอก เพราะว่าเขาก็ทำมาหากิน ลูกค้าต้องสังเกต อยากจะทำบุญต้องตรวจสอบนิดนึ่งว่าพระจริงหรือเท็จ