MGR Online - กองปราบตามรวบ "แจ๊ค บางพูน" โจรในคราบพลเมืองดี ทำทีอาสาช่วยเป็นพยานให้เสี่ยขับเบนซ์เฉี่ยว จยย. แต่ฉวยโอกาสขณะผู้เสียหายกำลังนำคนเจ็บขึ้นรถส่งโรงพยาบาล ฉกกระเป๋าสะพายภายในมีนาฬิการิชาร์ด มิลล์ พร้อมแหวนเพชร มูลค่ารวม 6 ล้านบาท หลบหนี
วันนี้ ( 22 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายพงษ์เดช ลิ้วตระกูล หรือ "แจ็ค บางพูน" อายุ 41 ปี ได้ห้องพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางนาฬิกา Richard Mille 233 สีขาว รุ่นลำดับ 789 จำนวน 1 เรือน แหวนเพชร สลักอักษรภาษาอังกฤษว่า THE iCON จำนวน 1 วง เสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีดำ-เหลือง ทะเบียน ขนล 156 ภูเก็ต
ทั้งนี้เมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณจุดกลับรถ หน้าตลาดพูนทรัพย์ ต.บ้านกลาง อ.เมืองจ.ปทุมธานี จึงจอดรถลงมาช่วยเหลือคนเจ็บ พร้อมแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มารับตัวรักษาที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นมีนายพงษ์เดช ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ อ้างว่าจะเป็นพยานให้ พร้อมให้เบอร์โทรไว้ติดต่อ เมื่อกู้ภัยมาถึง ผู้เสียหายได้ช่วยนำผู้บาดเจ็บขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล หลังเสร็จสิ้นเดินกลับมาขึ้นรถพบว่า กระเป๋าสะพายภายในกระเป๋ามีนาฬิกา Richard Mille 233 สีขาว รุ่นลำดับ 789 จำนวน 1 เรือน และแหวนเพชร อีก 1 วง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่วางไว้เบาะกลางด้านหลังหายไป รวมทั้งไม่พบ นายพงษ์เดช เมื่อโทรสอบถามกลับบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น และเบอร์โทรนี้ไม่ใช่ของนายพงษ์เดช หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สวนพริกไทย ก่อนจะมาขอให้ตำรวจกองปราบปราม ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังลงพื้นที่ สืบสวนแกะรอยหาตัวคนร้ายกว่า 1 สัปดาห์ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายพงษ์เดช มีอาชีพรับจ้างเป็นลูกจ้างประจำอยู่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงวางแผนจับกุมตัวได้ดังกล่าว พร้อมตรวจค้นภายในห้องพัก พบทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งหมด และเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จึงจับกุมตัวดำเนินคดี สอบสวน นายพงษ์เดช ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากการตรวจสอบประวัติพบเคยมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และคดีวิ่งราวทรัพย์พึ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดแพร่มาเมื่อปลายปี 59 ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำอีก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้พ้นการจับกุม" ก่อนนำตัวส่ง สภ.สวนพริกไทย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป