ข่าวลึกปมลับ : เรือดำน้ำติดล็อก เลือกทางไหนก็เจ็บ สะเทือน "ตู่-ป้อม".

“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ตอน เรือดำน้ำติดล็อก เลือกทางไหนก็เจ็บ สะเทือน "ตู่-ป้อม".



มหากาพย์เรือดำน้ำยังไม่จบง่ายๆ เพราะยิ่งแก้ ยิ่งเหมือน ‘ลิงแก้แห’ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดที่กองทัพเรือ ได้มอบหมาย “คณะทำงานด้านเทคนิคของกองทัพเรือ” ทำการศึกษาและพิจารณาเครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD 620 ที่จีนผลิตเอง

ขณะที่ทาง บริษัท CSOC ได้เสนอใช้แทนเครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า MTU 396 ของเยอรมัน ที่จะนำมาติดตั้งเรือดำน้ำให้ไทย

โดยบริษัท CSOC ได้ส่งผลการทดสอบเป็นเอกสารหลักร้อยหน้าให้กับทางกองทัพเรือแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยถึงผลการทดสอบ เบื้องต้นเป็นการเทียบคุณสมบัติระหว่างเครื่อง CHD 620 ที่จีนผลิต กับ เครื่องยนต์MTU 396 ของเยอรมัน ให้เห็นข้อเด่น-ด้อยต่างๆ ผ่านการทดสอบสรรถนะต่างๆ หลังทางบริษัท CSOC ได้ทดสอบที่จีนเสร็จสิ้น

ทางกองทัพเรืออ้างว่า ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เพื่อหาข้อสรุปก่อน ที่มี ‘เสธ.แจ๊ค’พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานคณะกรรมการฯ

ทว่าใกล้ช่วงโยกย้าย ต.ค.นี้ โดย พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ จะขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการทหารเรือ ส่วนตำแหน่งเสนาธิการทหาร จะเป็นของ ‘บิ๊กโอ๋’พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ที่โยกมาจาก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ

ส่วน ‘บิ๊กเฒ่า’พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. จะเกษียณฯ 30ก.ย.นี้ และส่งไม้ต่อให้ ‘บิ๊กจ๊อด’พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้ช่วย ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. คนใหม่

ภายใน ทร. ว่ากันว่า การพิจารณาสเปคเครื่องยนต์จีนจะถูกส่งให้ 5 เสือ ทร. ชุดใหม่ ทำการพิจารณา เท่ากับว่าเป็นการ “ยื้อเวลา” ออกไปอีกหรือไม่?

สำหรับ ‘ข้อกำหนด’ ในเรื่องเครื่องยนต์ ที่ ทร. ระบุไว้กับบริษัท CSOC รวม 4 ข้อ ได้แก่
1. ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานการใช้งานจริงในเรือดำน้ำ
2. มีความปลอดภัยในการใช้งานจริง
3. มีการรับประกัน การบริการหลังการขาย และ การซ่อมบำรุง
4. ตอบสนองด้านความต้องการใช้งานทางยุทธการของกองทัพเรือ

สำหรับ พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้ชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ที่เคยโยก พล.ร.อ.สมประสงค์ ออกจาก ทร. ไปเป็นรองปลัดกลาโหม 2 ปี หลุดไลน์ขึ้นเป็น ผบ.ทร. พร้อมกับดันคนในสาย ‘บิ๊กลือ’ ขึ้นมาตำแหน่ง 5 เสือ ทร.

แต่สุดท้ายด้วยพลังของ ตท. รุ่น 20 ก็ทำให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้กลับ ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. นำมาสู่มหากาพย์ ‘ล้างบาง’ สายบิ๊กลือ

โครงการเรือดำน้ำเป็นหนึ่งในผลงาน ‘บิ๊กลือ’ ที่ตั้งไข่ไว้ให้ ทร. โดยเฉพาะเรือลำแรกที่สั่งซื้อจากจีนรุ่น Yuan Class S26T มูลค่า 13,500 ล้านบาท ตามโครงการจัดหาทั้งหมด 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท โดยในยุค คสช. ได้อนุมัติลำแรกไปแล้ว

แต่เมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลเลือกตั้ง ที่ต้องเผชิญกับโควิด ทำให้เรือดำน้ำลำที่ 2-3 โดนพิษการเมือง-เศรษฐกิจ ต้องโอนงบคืนไปช่วยโควิด เมื่อปี 63 และงบปี 64-65 ก็ถูกสภาตีตกไป

ทว่างบปี 66 ในยุค พล.ร.อ.สมประสงค์ เป็น ผบ.ทร. ได้ตัดสินใจ “ไม่เสนองบ” จัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ต่อสภา โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้งบส่วนนี้ถูก “ตีตก” อีก เพื่อนำงบส่วนนี้มาพัฒนา ทร. ด้านอื่นแทน

อีกแง่หนึ่งมีการมองว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับโครงการเรือดำน้ำ ที่เกิดขึ้นจากยุค ‘บิ๊กลือ’

แต่สำหรับโครงการเรือดำน้ำลำแรก ที่ต้องเดินหน้า พล.ร.อ.สมประสงค์ ไม่สามารถปฏิเสธ ‘ความรับผิดชอบ’ ได้ แม้ต้องเผชิญกับปัญหา ‘เครื่องยนต์’ ที่เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ช่วง ก.พ.2565 ผ่านมา 7 เดือน ปัญหาคงค้างคา ทำให้การต่อเรือดำน้ำ ‘สะดุด’ ไปด้วย เพราะถึงขั้นตอนติดตั้งเครื่องยนต์แล้ว

อีกทั้งกองทัพเรือ ได้จ่ายเงินไปแล้ว 5 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2560-2564 ส่วนงบปี 2565 ยังติดขัดในเรื่องเครื่องยนต์ ทำให้โครงการชะงักไปด้วย ซึ่งงบประมาณที่กองทัพเรือจ่ายไปทั้งหมดประมาณ 7,700 ล้านบาท จากทั้งหมด 13,500 ล้านบาท ซึ่งเหลืออีก 2 ปีงบประมาณ ที่เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2560-2566 รวม 7 ปีงบประมาณ แบ่งเป็น 17 งวด

ทั้งนี้มีรายงานว่า ทหารเรือในกรมอู่ทหารเรือ ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยที่จะมีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ CHD 620 ของจีน เพราะถือเป็นเครื่องต้นแบบของจีนที่ยังไม่เคยมีการใช้งานในเรือดำน้ำจีนมาก่อน และถ้าไทยใช้ก็จะเป็น ‘หนูทดลอง’ ประเทศแรกให้จีน

ถือเป็น ‘ความเสี่ยง’ ที่ต้องแบกรับ อีกทั้ง ทร. คุ้นชินกับเครื่องยนต์ของเยอรมนีมากกว่า ซึ่งเครื่องยนต์เยอรมนีมีใช้อยู่ในเรือผิวน้ำของ ทร. อยู่แล้ว ทำให้กำลังพลมีความรู้ในการใช้และซ่อมบำรุงมากกว่า

ดังนั้น ‘เผือกร้อน’ มหากาพย์เรือดำน้ำจะถูกส่งต่อไปยัง พล.ร.อ.เชิงชาย ในฐานะ ผบ.ทร. คนใหม่ จึงต้องจับตาว่าจะต้องมีการ ‘ยกเลิกสัญญา’ หรือไม่ หากสุดท้ายแล้ว ทร. ตัดสินใจไม่เอาเครื่องรุ่น CHD 620 ที่ทางจีนเสนอมา

เท่ากับว่าจะต้องไป ‘เริ่มต้นใหม่’ อีกทั้งงบประมาณที่ไทยจ่ายให้จีนไปแล้ว 7,700 ล้านบาท ทางจีนจะรับผิดชอบหรือชดเชยให้ไทยอย่างไร เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพูดคุยกันเพราะการลงนามเป็นแบบ ‘รัฐต่อรัฐ’ หรือ G to G นั่นเอง

ดังนั้นหนทางข้างหน้า เป็น ‘ทางแพร่ง’ ที่เลือกทางใด ก็เจ็บทั้งสิ้น แถมสะเทือน ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ รมว.กลาโหม และ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ได้ฉายาจากฝ่ายค้านว่า “บิดาแห่งเรือดำน้ำ” ที่ได้ทำคลอด ‘เรือดำน้ำจีน’ ลำแรก ขณะเป็น รมว.กลาโหม ยุค คสช. มากับมือด้วย

-------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1