MGR Online - ทนายด้านสิทธิมนุษยชน พา “มึนอ” เข้าขอบคุณดีเอสไอสืบสวนคดี “บิลลี่” จนอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา และขอคุ้มครองพยานลูกๆ ทั้ง 5 คน หวั่นถูกคุกคาม
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ พา น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ “มึนอ” ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปก่อนพบชิ้นส่วนศพในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2562 เดินทางยื่นเอกสารต่อ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ , พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เพื่อขอคุ้มครองพยานเพิ่มให้กับลูกทั้งหมด 5 คน และขอบคุณดีเอสไอช่วยสืบสวนสอบสวนจนอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวก 4 คน "ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา “มึนอ” ได้รับการคุ้มครองพยานตั้งแต่ “บิลลี่” หายตัวและเป็นคดีสืบสวนสอบสวน แต่วันนี้ลูกทั้ง 5 คนของ “มึนอ” เริ่มโตขึ้นและอยู่ในวัยกำลังเรียน จึงห่วงความปลอดภัยของพวกเขา รวมทั้ง ขอขอบคุณดีเอสไอที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่พบว่ามีการข่มขู่คุกคามแล้วแต่ก็มีการถ่ายรูปหรือแอบซุ่มดูจากบุคคลภายนอกทำให้ต้องระมัดระวังดูแลตัวเองตลอด
ด้าน น.ส.พิณนภา เปิดเผยว่า ตอนนี้ห่วงเด็กๆ ต้องไป โรงเรียนทั้ง 5 คน ห่วงความปลอดภัยจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยคุ้มครองพยานดูแลเด็กๆ เพิ่มเติม
ส่วนทาง นายไตรยฤทธิ์ เผยว่า ดีเอสไอรับเรื่องไว้ดำเนินการและจะยื่นต่อคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษเพื่อช่วยเหลือในทางคดีต่อไป
