MGR Online - ผบ.ตร. ร่วมวงเสวนาและมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตจุฬาฯ ในโครงการ Special LawLAB“การสืบสวนสอบสวนยุค 5G” โครงการนำร่องศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Young Lawyers-Police Engagement Pilot Project) ตามความร่วมมือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ
วันนี้ (15 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น., ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นิสิตคณะนิติศาสตร์ ที่ร่วมโครงการ และกลุ่มครูพี่เลี้ยงจากสถานีตำรวจนครบาล 5 สถานี ประกอบด้วย สน.พญาไท, สน.ห้วยขวาง, สน.บางเขน, สน.บางนา และ สน.พระโขนง ได้ร่วมวงเสวนาประสบการณ์ที่น้องๆ นิสิต ได้ไปดูการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการตำรวจ ร่วมถึงฝึกปฏิบัติงานจริงที่สถานีตำรวจ
โดยในช่วงแรกให้นิสิตที่ได้ดูการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ และฝึกปฏิบัติงานจริง ตามสายงานต่างๆ เช่น งานสอบสวน งานป้องกันปราบปราม งานสืบสวนสอบสวน งานจราจร ได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงาน ซึ่งน้องๆ ได้กล่าวถึงปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นจริง ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ เช่น ปัญหาด้านกำลังพลที่มีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ด้านการบังคับใช้กฎหมายต้องคำนึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่อาจไม่ตรงตามหลักทฤษฎี ประชาชนไม่ทราบเขตอำนาจสอบสวนของแต่ละ สน.
รวมถึงขาดการพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหา ข้อขัดข้องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยอยากให้จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง แต่อยากให้จัดในช่วงของการปิดภาคการศึกษา และเพิ่มระยะเวลาการฝึกให้มากกว่านี้ เพราะการฝึกแต่ละสายงานมีรายละเอียดค่อนข้างมาก พร้อมได้กล่าวขอบคุณคณะครูพี่เลี้ยง ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เป็นอย่างดีขณะที่ฝึกปฏิบัติงาน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้กล่าวปาฐกถาตอนท้ายว่า รู้สึกดีใจแทนข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ เพราะอยากให้พี่น้องประชาชน ซึ่งน้องๆ นิสิต เสมือนเป็นตัวแทนประชาชนได้เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ว่าตำรวจทำอะไรบ้าง ในขณะเดียวกัน ก็ต้องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน อยากให้น้องๆ มีความทรงจำที่ดีจากการเข้าร่วมโครงการนี้ พร้อมยอมรับว่า ตำรวจมีปัญหาจริง เช่น ด้านกำลังพล ก็ต้องมีการปรับแก้กันไป ยกตัวอย่างหากเกิดเหตุแล้วกำลังสายตรวจไประงับเหตุแต่ไม่เพียงพอ ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายจราจร ก็ต้องไประงับเหตุด้วย รวมถึงการฝึกยุทธวิธีด้านต่างๆ อย่างการใช้ไม้ง่ามในการระงับเหตุ ด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยี เช่น การพิมพ์ลายนิ้วมือ กำลังมีโครงการติดตั้งเครื่องสแกนลายนิ้วมือซึ่งสามารถตรวจสอบประวัติได้ด้วย โดยเบื้องต้นจะเริ่มต้นที่ บช.น.
“ยุคสมัยนี้ ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ แล้วตำรวจไทยไม่มีความพยายามทำให้ได้” ผบ.ตร.กล่าว ก่อนขึ้นมอบประกาศนียบัตรให้แก่นิสิตที่เข้าร่วมโครงการ