ก.อ. แต่งตั้งโยกย้ายอัยการ รวม 937 รายชื่อ “อำนาจ-อิทธิพร” นั่งรองอัยการสูงสุด “ธรัมพ์” นั่งผู้ตรวจอัยการ ด้าน “ประยุทธ เพชรคุณ” โฆษกนั่งรอง อธ.อัยการคดีพิเศษเก้าอี้เดิม “สิงห์ชัย ทนินซ้อน” อสส.ปัจจุบัน เป็นอัยการอาวุโสที่ปรึกษา “นารี” อสส.หญิงคนเเรก
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธาน การประชุม ก.อ. ครั้งที่ 10/2565 โดยมีวาระสำคัญเรื่อง การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการตั้งเเต่ระดับ
ตั้งแต่ระดับรองระดับรองอัยการสูงสุด จำนวน 8 ราย, ผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย, อธิบดีอัยการ 81 ราย, รองอธิบดีอัยการ 100 ราย, อัยการพิเศษฝ่าย 146 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 6 จำนวน 87 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 5 จำนวน 109 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 สับเปลี่ยนตำเเหน่ง จำนวน 6 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 121 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 121ราย, อัยการอาวุโสสับเปลี่ยน 34 ราย และอัยการอาวุโส (ตั้งใหม่) 115 ราย รวมทั้งหมด 937 บัญชีรายชื่อ
มีผลตั้งเเต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป
โดยมีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้
1. นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 1 มีคิวที่จะขึ้นนั่งตำเเหน่งอัยการสูงสุดต่อจาก น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ซึ่งจะขึ้นดำรงตำเเหน่ง 1 ต.ค. 2565 นี้ เป็น ก.อ.โดยตำเเหน่ง
2. นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 2 มีคิวที่จะขึ้นนั่งตำแหน่งหน่งอัยการสูงสุดต่อจากนายอำนาจ ที่จะนั่งรอง อสส.อาวุโสลำดับ 1 เช่นกัน เป็น ก.อ.โดยตำเเหน่ง
3. นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลเเขวง ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีเเขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯขึ้นรองอัยการสูงสุดอันดับ 3 โดยก่อนหน้านี้เคยนั่งอธิบดีอัยการสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่างๆ ซึ่งการขึ้นรอง อสส.อาวุโสลำดับ 3 ครั้งนี้เท่ากับนายไพรัชจะสามารถเป็น ก.อ.โดยตำแหน่งได้นานถึง 3 ปีจนกว่าจะพ้นวาระบริหารในอดีตเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุด (นายชัยเกษม นิติสิริ)
4. นายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชันไปเป็นรอง อสส.ลำดับ 4 เลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ
5. นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญเเบ่งเป็น 12 กองงานที่จะมีคดีใหญ่สำคัญเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีไปเป็นรอง อสส.อาวุโสลำดับ 6 มีคิวที่จะขึ้นถึงอัยการสูงสุดในอนาคต
6. นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลทำบัญชีเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศ อดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดไปเป็นผู้ตรวจการอัยการอาวุโสลำดับที่ 8
ระดับอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ
1. นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ ย้ายไปเป็น อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญรับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งจะต้องเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก รวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม็อบการเมืองต่างๆ นายวิรุฬห์เคยเป็นลูกหม้อเก่าของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี กปปส.ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษเเกนนำหลายคน หรือคดีลูกอดีตนักการเมืองระดับประเทศฟอกเงิน
2. นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรีย้ายไปเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งถือเป็นสำนักงานที่รับคดีอาญาอุกฉกรรจ์เเละมีความสำคัญจาก สน.ต่างๆในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปราม
เเบ่งเป็น12กองงาน รวมทั้งยังเป็นสำนักงานที่มีหน้าที่แก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่
3.นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามทุจริตภาค8 โยกไปเป็นอธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ซึ่งถือเป็นโรงเรียนอัยการ โดยมีบทบาทในการจัดอบรมบรรยายปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรบทบาทหน้าที่ของอัยการผู้ช่วยที่สอบได้รวมถึงพัฒนาเพิ่มพูลทักษะของข้าราชการอัยการทั้งหมด จากประวัตินายโกวิทเป็นอัยการสายบู๊ดูงานคดีลูกหม้อสำนักงานคดีพิเศษเก่าเคยรับผิดชอบคดีม๊อบการเมืองเเละคดีผู้มีอิทธิพลสำคัญก่อนย้ายกลับไปภาคใต้ก็มีบทบาทในเรื่องคดีที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติเเละคดีเจ้าหน้าที่ระฐประพฤติมิชอบ เเละยังเป็นคิวที่จะขึ้นดำรงตำเเหน่งอัยการสูงสุดในอนาคต
4. นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง รองอธิบดีอัยการภาค2 ขึ้นดำรงตำเเหน่งอธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลจัดทำบัญชี เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศซึ่งเป็นตำเเหน่งสำคัญ การขยับขึ้นมานั่งตำเเหน่งนี้จากการขึ้นอธิบดีอัยการครั้งเเรกคาดว่าได้รับความไว้วางใจเเละการผลักดันจากผู้ใหญ่เพื่อมาทำหน้าที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีข้าราชการอัยการหรือการผลักดันเเก้ไขกฎหมาย
ระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ
1.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวงโยกไปเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือ สคช.ซึ่งเป็นสำนักงานที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย(สคช.)
สำหรับนายโกศลวัฒน์ถือเป็นระดับรองอธิบดีอัยการที่คิวอาวุโสสูงสุดในขณะนี้ เคยดำรงตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด เคยดำรงตำเเหน่งรองโฆษกอัยการฯ มาหลายสมัยมีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กที่โดนรถของกระทรวงสาธารณสุขชนจนพิการตลอดชีวิต ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อครั้งโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีภาค9 ก็ได้รับเเต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เเถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนเเละข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯเพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี ซึ่งได้รับการตอบรับชื่นชม
2. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ขึ้นรองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำหรับวัชรินทร์ เป็นถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดีเคยได้รางวัลอัยการดีเด่น จบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐฯ รุ่นเดียวกับ บิ๊กดำ’ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ โดยมีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน ได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดีสำคัญหลายคดีจำนวนมาก อาทิคดีฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ ,คดีรถหรู,เสาไฟกินรี ยังไปเป็นที่ปรึกษา สปสช. เป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ รอบนี้ยังรักษาเก้าอี้เหนียวเเน่น สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ ที่โดดเด่น โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง7 ปีซ้อน รับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนเเละประชาชนเข้าใจชัดเเจ้ง รวมถึงมีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรเป็นอย่างมาก
ในฐานะอัยการก็ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญงานสายคดี จากที่เข้ามาทำงานคดีพิเศษ เเละเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้เเสดงว่าได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น อัยการจังหวัดสมุทรปราการ อัยการจังหวัดสระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี จากนั้นขยับดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ
ระดับอัยการอาวุโสที่น่าสนใจ
1. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุดคนปัจจุบันไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด(ที่ปรึกษาอัยการสูงสุด)
2. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุดลำดับที่ 1 ไปเป็นอัยการอาวุโส สำนักงานชี้ขาดคดีสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับนายชาติพงษ์ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร,คดีทุจริต สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น,คดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน รวมถึงคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเที่ยงตรง รักเเละปกป้องชื่อเสียงองค์กร จนเป็นที่ไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริงเเละวินัยอัยการ
3.นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรีไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำหรับนายปรเมศวร์ถือเป็นอัยการหน้าสื่อชื่อดังที่ออกมาให้ความเห็นข้อกฎหมายเเละความเห็นในการวิจารณ์ทางการเมืองอย่างดุเดือด หรือคดีที่สังคมให้ความสนใจ อย่างคดีโฉนดถุงกล้วยเเขกวัดสวนเเก้ว ก็ออกมาระบุมั่นใจเต็มร้อยว่าพระพยอมต้องได้เงิน 10 ล้านบาทคืนตามที่ได้ซื้อที่ดินโดยสุจริต
ก่อนหน้านี้นายปรเมศวร์มีคิวที่จะได้ขึ้นรองอัยการสูงสุดเเต่ขณะนั้น ก.อ.มีการเสนอชื่อโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้ตรวจการอัยการเเต่ไม่ผ่านการพิจารณาเนื่องจากเคยโดนคดีดื่มสุราขับรถชนเเล้วหนีเเต่ต่อมาภายหลังผู้บัญชาการตำรวจภาค1ทำความเห็นเเย้งในข้อหาชนเเล้วหนี โดยอัยการสูงสุดในขณะนั้นชี้ขาดยื่นฟ้องเฉพาะข้อหาเมาเเล้วขับชนอย่างเดียว ซึ่งภายหลังศาลพิพากษาจำคุกเเละรอลงอาญาไว้ โดยปัจจุบันนายปรเมศวร์ทำหน้าที่อธิบดีอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด โดยยังไม่ได้โปรดเกล้าฯออกจากอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรีเดิม