MGR Online - รมว.ยุติธรรม รับเรื่องจาก “ทนายตั้ม” พา 2 หญิงสาวผู้เสียหายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ขอช่วยเพิ่มโทษคดีให้หนัก “สมศักดิ์” ชี้มีกม. JSOC คอยเฝ้าระวังคนอันตรายแล้ว รอโปรดเกล้าฯ
วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม พา หญิงสาวผู้เสียหาย 2 ราย กรณีถูกหลานชายอดีตรัฐมนตรีวางยาล่วงละเมิดทางเพศและดารานักแสดงชาวไทยลูกครึ่ง-ฮอลแลนด์ สังกัดช่อง 7 เอชดี ถูกนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข่มขืนอนาจาร เข้าพบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับการวางมาตรการป้องกันปัญหาทางเพศ
ทนายตั้ม กล่าวว่า จากหลายๆ คดีที่ตนทำงานมาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข รวมถึงคนที่กระทำความผิดก็ไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย และมีการกระทำผิดซ้ำๆ จึงต้องการเสนอเพิ่มโทษผู้กระทำผิดทางเพศ และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำ
ด้าน นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคดีนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องหลังพ้นโทษกลับมาก่อเหตุทำผิดซ้ำ กระทรวงยุติธรรมจึงได้ทำเรื่องเสนอ พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือกฎหมาย JSOC พร้อมติดกำไล EM เพื่อควบคุมหลังผู้ต้องขังพ้นโทษป้องกันก่อเหตุซ้ำ มีระยะสูงสุด 10 ปี โดยข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคดีทางเพศ ตามมาตรา 276 284 , 277 , 278 , 279 และ 283 ทวิ ส่วนกลุ่มคดีกับชีวิตและร่างกาย ตามมาตรา 288 , 289 , 290 , 297 และ 298 ซึ่งมีคณะกรรมการพิจารณาระยะเวลาติดกำไล EM โดยมีรองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ขณะนี้กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาทั้ง 2 สภาแล้ว รอโปรดเกล้าฯ สามารถบังคับใช้ได้ทันที
“ยังมีอาสาสมัครกระทรวงยุติธรรมคอยติดตาม เฝ้าระวัง หรือ ผู้อยู่ห้องควบคุมกำไล EM ช่วยดูว่าบุคคลดังกล่าวเดินทางไปยังที่ใดบ้าง นอกจากนี้ มีคณะกรรมการประเมินพฤติกรรมผู้พ้นโทษติดกำไล EM ว่าผิดเงื่อนไขหรือไม่ หากผิดจริงจะส่งมาควบคุมตัวอีกครั้งในสถานที่กักขัง แต่ไม่ใช่ในเรือนจำ”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการฉีด “ไข่ฝ่อ” เป็นมาตรการป้องกัน โดยผู้กระทำผิดต้องยังอยู่ในเรือนจำและยินยอมให้ฉีดเพื่อลดความต้องการทางเพศที่รุนแรงของตัวเอง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีเคสแรก และมีข้อกังวลในด้านสิทธิมนุษยชนที่ห้ามละเมิดผู้ต้องขังด้วย