xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กใหม่" นำทีมรวบมือปืนสังหาร " ทนายมานพ" ดับคาปั๊มระยอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "บิ๊กใหม่" นำกำลังบุกรวบทีมสังหาร "ทนายมานพ" ดับคาปั๊มระยอง ด้าน ผบ.ตร. เตรียมสอบปากคำด้วยตัวเอง

วันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลัง ชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ บูรพา 491 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการ บุกจับกุม นายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี และ นายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” โดยจับตัวนายปิติ ได้ภายในบริเวณ ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ส่วน นายนิติพนธ์ จับกุมได้ในพื้นที่ จ.แพร่

ทั้งนี้เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 15 ส.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนบุกเดี่ยวเข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตเลี่ยม เลขที่ 111 ม.4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ก่อนใช้อาวุธปืนจ่อยิงใส่ นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จนเสียชีวิตต่อหน้าภรรยาและญาติที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ร่วมกับ กก.2 บก.ป. บก.สส.ภ.2 , บก.สส.ภ.จว.ระยอง , สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อเร่งคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญประชาชนรวมถึงผู้ตายยัง เป็นทนายความที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในพื้นที่และเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทุจริตและกระทำผิดกฎหมาย

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวภายหลังสอบปากคำผู้ต้องหาว่า จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และมีการวางแผนมาก่อเหตุอย่าง มืออาชีพ มีการสำรวจพื้นที่ สะกดรอยติดตามนายมานพ ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ซึ่งก่อนวันก่อเหตุ นายปิติได้เดินทางไปยังจังหวัดระยองล่วงหน้า 2 วัน เพื่อตรวจสอบดูลาดเลาให้แน่ชัด ก่อนลงมือในวันที่ 15 สิงหาคม ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้น คนร้ายจงใจไปจอดทิ้งไว้ในที่ดินรกร้างแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนไปขึ้นรถยนต์ของผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน ที่จอดรอรับในพื้นที่เปลี่ยวใกล้จุดทิ้งรถขับหลบหนีไปด้วยกัน

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมา มีการแจ้งความหายไว้ตั้งแต่ ปี 57 ต่อมาตำรวจสืบสวนจนยืนยันตัวบุคคลที่เป็นมือยิงและคนพาหลบหนีได้ทั้ง 2 คน จากรอยนิ้วมือที่อยู่บนรถจักรยานยนต์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับในเวลาต่อมา

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีกคนคือ นายนิติพล ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์พานายปิติไปจังหวัดระยองและขับรถยนต์พาหลบหนีหลังก่อเหตุ และหลังนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้ง ถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมได้ที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นบ้านภรรยาของนายนิติพล อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหาทั้งสอง ยังไม่พบว่าเคยต้องคดีมาก่อน แต่นายปิติมือปืนยอมรับเองว่าเคยก่อเหตุยิงคนอื่นมาแล้ว แต่ไม่รู้ถึงสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน แต่นายนิติพล เป็นคนรับงานมา และรู้จักกับผู้ตาย ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น หลังก่อเหตุนายปิติได้คืนให้กับนายนิติพลไป ส่วนใครเป็นผู้จ้างวานอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล สำหรับ ประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นนั้น ภรรยาของผู้ตายเคยให้ข้อมูลไว้ ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นกันว่าเป็นสาเหตุหลักหรือไม่







นายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น






กำลังโหลดความคิดเห็น