MGR Online - ดีเอสไอบุกค้น 7 จุด จำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม และ 5 จุดขายกางเกงยีนส์ละเมิดเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ ยึดของกลางหลายรายการ มูลค่าตามท้องตลาดกว่า 120 ล้านบาท หากเป็นของแท้จะมีมูลค่าถึง 1,100 ล้านบาท
วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ณ โกดังเช่าเก็บสินค้าของกลาง บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา แถลงผลการตรวจค้นสถานที่จำหน่ายสินค้าและโกดังเก็บสินค้าในเขตพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (พื้นที่สีแดง) ซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้ปฏิบัติการบุกค้นทลายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ ในห้วงเดือน ส.ค. 65
พ.ต.ท.พเยาว์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้าอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา 301 พิเศษ ที่ทำให้ไทยต้องถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา ถูกประเมินต่ำและลดมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จึงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในเชิงลบของประเทศ โดย ดีเอสไอ มีหน้าที่ปราบปรามการกระทำความผิดที่เป็นเครือข่าย หรือที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
พ.ต.ท.พเยาว์ เผยว่า ดีเอสไอ จึงเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 2 ครั้ง คือ 1. สถานที่จำหน่ายสินค้าและโกดังเก็บสินค้าประเภทกระเป๋าปลอม เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 7 จุด พร้อมประสานข้อมูลกับ บริษัท สัตยะพล แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ตัวแทนเครื่องหมายการค้าระดับโลก หลายแบรนด์ อาทิ เช่น HERMES LACOSTE เป็นต้น ซึ่งสถานที่เป็นแหล่งลักลอบเก็บซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่กระจายสินค้าเพื่อส่งขายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
พ.ต.ท.พเยาว์ เผยอีกว่า ผลการตรวจค้นทั้ง 7 จุด ภายในตลาดโรงเกลือนครนายก C 1 และตลาด THE COIN จังหวัดนครนายก พบสินค้าประเภทกระเป๋าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าแบรนด์เนม ยี่ห้อ LOUIS VUITTON, CHANEL, COACH และยี่ห้ออื่นๆ ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ จำนวนประมาณ 300,000 ชิ้น โดยมีมูลค่าสินค้าตามราคาท้องตลาดเป็นเงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้ เป็นเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท จึงได้ยึดสินค้าทั้งหมดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ โดยกล่าวหาว่า “จำหน่าย เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมาย การค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร และซื้อหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า 2. ปฏิบัติการทลายโกดังเก็บสินค้าประเภท “กางเกงยีนส์” ละเมิดเครื่องหมายการค้า ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ซึ่งเป็นแหล่งลักลอบเก็บซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขนาดใหญ่และเป็นสถานที่กระจายสินค้าเพื่อส่งขายออนไลน์ และผลการตรวจค้นทั้ง 5 จุด ภายในหมู่บ้านโครงการ โอเควินเลจ ซอยพระยามนธาตุ เขตบางบอน กรุงเทพฯ พบสินค้าประเภทกางเกงยีนส์ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าแบรนด์เนม ยี่ห้อ LEVI’S, LEE, MC รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ในการตัดเย็บกางเกงยีนส์ รวมจำนวนกว่า 60,000 ชิ้น มีมูลค่าสินค้าตามราคาท้องตลาด เป็นเงินจำนวนกว่า 20 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้ เป็นเงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาท จึงได้ยึดสินค้าทั้งหมดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ โดยกล่าวหาว่า “จำหน่าย เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทกางเกงยีนส์ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น”