MGR Online - รมว.ยุติธรรม ระบุ “ป.ป.ส.- ม.ขอนแก่น” วิจัยเห็ดขี้ควายสกัดทำยารักษาโรคซึมเศร้า เตือนวัยรุ่นอย่าหามาเสพเพราะผิดกฎหมาย-มีอันตรายถึงชีวิต
วันนี้ (14 ส.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หลังจากการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งทำให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ประชาชนหันมาปลูกและมีการซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก พืชอีกตัวหนึ่งซึ่งทาง ป.ป.ส.กำลังศึกษาและทำการวิจัยถึงประโยชน์ คือ เห็ดขี้ควาย หรือ เห็ดวิเศษ ปัจจุบันถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดประเภท 5 มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พูดถึงการทดลองเห็ดขี้ควาย ซึ่งมีสารสกัดสำคัญต่อต้านอาการซึมเศร้า ที่เรียกว่า ไซโลไซบิน (Psilocybin) และยังพบว่าสามารถช่วยรักษาอาการติดเหล้าและบุหรี่ได้อีกด้วย โดยที่ผ่านมามีบริษัทยายักษ์ใหญ่ทั้งทางฝั่งอเมริกาและยุโรป จดสิทธิบัตรกับองค์กรการแพทย์ เพื่อทำการทดลองการใช้เห็ดขี้ควายสกัดเป็นยาในการรักษา
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากตำราหมอไทยโบราณมีการใช้เห็ดขี้ควาย เป็นยาทำให้ง่วงแก้โรคนอนไม่หลับ แต่ถ้าใครกินหรือสูบเข้าไปจำนวนมากจะทำให้มีอาการมึนเมา ประสาทหลอน และการเต้นของหัวใจผิดปกติ ซึ่งขณะนี้ ทาง ป.ป.ส. ได้จัดทำ พ.ร.ฎ.กำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกเห็ดขี้ควาย ตามโครงการศึกษาและวิจัยทดลองเพื่อต่อยอดไปสู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยขณะนี้มีมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ร่วมมือทำการวิจัยศึกษาและทดลองการสกัดสารจากเห็ดขี้ควาย ซึ่งทาง ป.ป.ส.จะขยายขอบเขตการวิจัยไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆให้ครบทั้ง 4 ภาค เพื่อศึกษารายละเอียดต่างๆอย่างถี่ถ้วน
“ในต่างประเทศมีการวิจัยเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ซึ่งเห็ดขี้ควายในบ้านเราก็มีขึ้นอยู่จำนวนมากในทุกภาคของไทย ดังนั้นคือโอกาสที่เราจะสามารถวิจัยเพื่อผลิตยารักษาโรคผู้ป่วยทางจิตเวชได้ หากประสบผลสำเร็จก็อาจจะเป็นการสร้างอาชีพใหม่อีกอาชีพหนึ่ง เพราะจากรายงานของ ป.ป.ส. พบว่า มีการซื้อขายกันในราคาประมาณ 500 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเห็ดสด และ 5,000 บาท สำหรับเห็ดแห้ง และมีวัยรุ่นหลายกลุ่มนำมาเสพ ซึ่งก็ต้องขอเตือนว่า เห็ดขี้ควายยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-1,500,000 บาท ถ้าเป็นผู้เสพ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเสพมากเกินไปมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้” นายสมศักดิ์ กล่าว