xs
xsm
sm
md
lg

นักศึกษาจบนอก เกียรตินิยมอันดับ 1 วอนหมอรับผิดชอบทำเลสิกตาแล้วตาพร่ามัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



นักศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 ร้องทนายความจิตอาสาช่วยเหลือ หลังเข้าทำเลสิกดวงตาโรงพยาบาลย่านธนบุรี เสียเงินค่าบริการไป 190,000 บาท แล้วดวงตาพร่ามัว มองเห็นเป็นภาพซ้อนกัน กระทบกับการใช้ชีวิต การทำงาน จนต้องลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยบริหารเงินเดือนเกือบแสนบาท มาทำงานเป็นพนักงานธรรมดา

เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 10 สิงหาคม 65 ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี นายภาสกร ขอสงวนนามสกุล อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อให้ช่วยเหลือหลังตนเองเข้าทำการเลสิกดวงตาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี เสียเงินไป 190,000 บาท แต่หลังผ่าตัดดวงตาแล้ว พบว่า มองเห็นภาพพร่ามัวเป็นภาพซ้อนกัน ทำให้ตนเองซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยบริหารบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา และมีเงินเดือนเกือบแสนบาท ต้องลาออกจากตำแหน่ง มาทำงานเป็นพนักงานธรรมดา ไม่สามารถขับรถเองได้ เพราะเกรงจะเกิดอันตราย

นายภาสกร กล่าวว่า ตนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนราชมงคลเชียงใหม่ ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จากนั้นได้ไปเรียนต่อจนจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเนชั่นแนลฟอร์มูซ่า University ประเทศไต้หวัน ด้วยตนเป็นคนที่สายตาสั้นและต้องใส่แว่น หรือ คอนแทคเลนส์ เป็นประจำ จึงอยากทำการเลสิกดวงตา และพบว่าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านธนบุรี มีหมอเก่งและเชี่ยวชาญในด้านนี้ จากที่เห็นในโฆษณาจึงได้ติดต่อกับคุณหมอแพทย์หญิงไรนา (ขอสงวนนามสกุล) เพื่อทำการผ่าตัดดวงตาในวันที่ 23 และ 24 มิถุนายน 65 แต่หลังจากการผ่าตัดผ่านพ้นไป ตนกลับมองเห็นภาพเป็นภาพพร่ามัวหรือซ้อนกัน ทำให้มีอุปสรรคต่อการทำงานในตำแหน่งหน้าที่ผู้ช่วยบริหาร จนต้องลาออกในเวลาต่อมาทุกวันนี้ต้องมาทำงานเป็นพนักงานธรรมดาๆ แห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นายภาสกร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนได้ทำเลสิกที่ดวงตามีอาการภาพซ้อนด้านหางตา ทั้งซ้ายและขวา การใช้ชีวิตก็เห็นภาพเบลอๆ เวลาดูเอกสารก็ชัดบ้าง เบลอบ้าง บางครั้งมองตรงๆ ภาพก็ซ้อนและควบคุมไม่ได้ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นมันกระทบกับความั่นใจ การใช้ชีวิต การทำงาน ทำให้ปวดเบ้าตาและศีรษะด้วย เกิดการปวดตรงท้ายทอย ต้องทานยาระงับอาการปวด และตนก็ขอลาออกมาก่อนมาทำงานบริษัทในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่มีรถรับส่งซึ่งสะดวกกับตน จุดประสงค์ที่มาร้องเรียน อยากให้ทางผู้บริหารโรงพยาบาลรับทราบถึงความเดือดร้อนของตน และเสนอทางแก้ไขในส่วนของสิ่งที่เกิดขึ้นจะแก้ยังไง เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของตนมันยากลำบากเหลือเกิน ถ้าอยากจะหลีกหนีจากอาการนี้คือต้องหลับตาเท่านั้น

ขณะที่ นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้พูดคุยกับผู้เสียหายที่ไปรับบริการกับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ได้ข้อมูลพอสรุปได้ว่า ไปทำตาเนื่องจากสายตาสั้นมาก เลยไปทำเลสิก คุณหมอแจ้งว่าเนื่องจากสายตาสั้นเกิน เลยเสนอให้ทำ ICL มาใส่ให้ เป็นการเปลี่ยนเลนส์สายตา แต่จากการทำค่าเลนส์ที่นำมาใส่ให้มันไม่ตรงกับค่าสายตาที่สั้น น่าจะเป็นสต๊อกเลนส์ที่เก่าแล้ว ไม่ได้ตัดใหม่มาใส่ให้ผู้เสียหาย หรือว่าการบริการด้านหัตถกรรมมีอะไรที่ผิดพลาดไป ทำให้สายตาแย่กว่าเดิม มองอะไรไม่ได้เลย ข้อกฎหมายมี 2 อย่าง คือ 1. เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ถ้าเขาพิการไปก็เป็นอันตรายสาหัสเลย 2. ค่าเสียหาย เนื่องจากน้องเขาเสียเงินค่าบริการไป 190,000 บาท และค่าตรวจอีกจำนวนหนึ่ง และค่าที่ต้องไปทำงานที่ลำบากกว่าเดิม ต้องเปลี่ยนงานที่เป็นสายบริหาร เนื่องจากทำงานไม่ได้เหมือนเดิม สูญเสียโอกาส และอนาคตที่มีอีกไกล การจบการศึกษาได้เกียรตินิยม จบการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งความรู้ความสามารถแบบนี้ในประเทศมีน้อย ในเรื่องของการบริหารจัดการเทคโนโลยี แต่ต้องมาสูญเสียโอกาส แทบจะหมดอนาคตเลย อยากจะวิงวอนทางโรงพยาบาล คุณหมอ ให้มารับผิดชอบ ดูแลแก้ไข ให้สายตาเขากลับไปเป็นปกติ ผิดพลาดอะไรมาพูดคุยกันได้ ก่อนที่น้องเขาจะไปดำเนินคดีทั้งอาญา และทางแพ่ง เพราะจะมีค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น