ตำรวจ สน.ปทุมวัน จับกุม 2 หนุ่มชาวใต้ ขนเงินดอลลาร์สหรัฐปลอม มูลค่า 18 ล้านบาท ขณะนำไปแลกเป็นเงินไทย ที่ร้านรับแลกเงินย่านปทุมวัน อ้างได้มาจากการขายสวนยางที่ภาคใต้
วันนี้ (6 ส.ค.) พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน สั่งการให้ฝ่ายป้องกันปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและจราจร ร่วมกันจับกุมนายอัสมิน (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ชาวจ.พัทลุง และนายอับดุลรอมาณ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมด้วย ของกลางธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ ใบละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 5,000 ใบ คิดเป็นเงินไทย 18 ล้านบาท จับกุมได้ที่บริษัทแลกเปลี่ยนเงิน หจก.สยามเอ๊กซเชน แยกปทุมวัน ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น.
ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากวิทยุ สน.ปทุมวัน ว่า นายอัสมิน และ นายอับดุลรอมาณ นำธนบัตรต่างประเทศเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐใบละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 5,000 ใบ บรรจุใส่กระเป๋าเป้สะพายข้างสีส้ม เพื่อนำมาแลกเป็นเงินไทยที่ หจก.สยามเอ๊กซเชน ตรงบริเวณที่จับกุม สี่แยกปทุมวัน ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
เมื่อ นายอัสมิน และ นายอับดุลรอมาณ นำธนบัตรต่างประเทศเข้ามาแลกกับเจ้าหน้าที่ของ หจก.สยามเอ๊กซเชน ได้ตรวจดูด้วยตาเปล่า และสัมผัสกับเนื้อธนบัตรพบว่าเป็นของปลอม จึงได้นำเข้าเครื่องตรวจสอบธนบัตรอีกครั้ง ปรากฏว่า เป็นธนบัตรปลอมจริง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ตนเดินทางมา จ.พัทลุง ได้เงินดังกล่าวจากการขายสวนยางภาคใต้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะคาดว่าน่าจะถูกรับจ้างมาแลกเงินดังกล่าว เบื้องต้นนำตัวพร้อมธนบัตรของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีข้อหา “ปลอมและใช้ธนบัตรปลอมซึ่งธนบัตรที่รัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้”
ด้าน พ.ต.อ.พันษา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้นำธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมไปขอแลกเงิน 5 ใบ โดยเจ้าหน้าที่พบพิรุธ เนื่องจากนำธนบัตรปลอมมาแลก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบและจับกุมได้ดังกล่าว พร้อมการตรวจค้นจนพบของกลางเพิ่มเป็น 5,000 ใบ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตประเทศสหรัฐอเมริกาตรวจสอบข้อมูล พบว่า มีการผลิตธนบัตรปลอมแล้วถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว ที่ จ.นครปฐม แล้วมีแท่นพิมพ์หายไป 1 ชิ้น จึงคาดว่าอาจจะเป็นธนบัตรดอลลาร์ที่ถูกพิมพ์จากแท่นพิมพ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวต่อไป