กองปราบคุม “บอย ยูนิตี้” ที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ส่งศาลอาญา ศาลจึงออกหมายคดีถึงที่สุด จำคุก 4 ปี ฐานปลอมเอกสารเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์หรู ส่งตัวนอนเรือนจำ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัว นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ บอย ยูนิตี้ จำเลย คดีหมายเลขดำ 4529/2564 พนักงานอัยการ โจทก์ฟ้อง บริษัท แจนด์ส ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด จำเลยที่ 1 นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ จำเลยที่ 2 ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร กรณีวันที่ 4-7 มี.ค. 2556 จำเลยกับพวกร่วมกันปลอมเอกสารใบรับรองการนำเข้าของกรมศุลกากร โดยร่วมแก้ไขข้อความการนำเข้าที่แท้จริงชนิดรุ่นรถยนต์และเครื่องยนต์
ซึ่ง นายอินทระศักดิ์ จำเลยที่ 2 หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ตามหมายจับของศาลอาญามาส่งศาล ภายหลังจากที่จับกุม นายอินทระศักดิ์ ได้ โดยศาลสอบ นายอินทระศักดิ์ แล้ว รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ศาลออกหมายจับ ศาลอาญาจึงออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด และวันเดียวกันก็ได้นำตัวจำเลยดังกล่าวส่งเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจาก นายอินทระศักดิ์ หรือ บอย ยูนิตี้ เป็นเจ้าของกิจการเต็นท์รถชื่อดังย่านสุขุมวิท และ รัชดา และประกอบกิจการนำเข้ารถหรู แต่กลับมีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้ารถซูเปอร์คาร์และรถหรู (Luxury car) ด้วยวิธีการหลบเลี่ยงการชำระภาษี และสำแดงราคารถยนต์ให้ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาด, รวมถึงลักลอบนำเข้ารถจดประกอบ
ก่อนนำไปขายให้กับผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง และนักการเมือง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ และตัวลูกค้าที่ไม่สามารถนำรถไปขึ้นทะเบียนที่กรมการขนส่งอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ จึงมีการเข้าแจ้งความก่อนจะถูกตำรวจกองปราบตามจับกุมตัวได้เมื่อเดือน มิ.ย. 2560
หลังจากเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล นายอินทระศักดิ์ ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวสู้คดี แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วกลับไม่ยอมมารายงานตัวตามนัดหมาย หรือ มีพฤติการณ์หลบหนี ก่อนที่ต่อมา ศาลฎีกามีคำพิพากษาปรับบริษัท จำเลยที่ 1 จำนวน 8,000 บาท และจำคุก นายอินทระศักดิ์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 4 ปี