MGR Online - รองฯ จิ เผย พงส.เรียกตัว “สารวัตรฉาว” ทำอนาจาร ดาราสาวลูกครึ่งวันนี้ รับอยู่ในเหตุการณ์จริง ผกก.บางพลัด สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนฯ ฟันวินัย หนักสุดให้ออกจากราชการ เจ้าตัวลา 5 วัน เข้าสู่กระบวนการทางคดี ชี้ แม้จบลงด้วยการยอมความ แต่ทางวินัยยังเดินหน้าต่อไปไม่เกี่ยวกัน ผบช.น.รับเสียใจ กำชับดำเนินการโดยเคร่งครัด เล็งตรวจสอบผู้บังคับบัญชาโดนด้วยหรือไม่ ยัน ไม่มีแทรกแซง ยอมรับทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีนักแสดงสาวลูกครึ่ง อายุ 26 ปี เข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ถูกตำรวจระดับสารวัตร (พ.ต.ต.) กระทำอนาจาร ว่า 1. การดำเนินการทางด้านกฎหมาย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ และสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว หลังจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม แล้วเชิญเพื่อนเข้ามาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานในคดี ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างประสานให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา บช.น.เร่งรัดภายในวันนี้ 2. การดำเนินการทางด้านวินัย ขณะนี้ ผกก.สน.บางพลัด ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ รอง ผกก.(สอนสวน) เป็นประธานคณะกรรมการ หากมีมูลจะดำเนินการทางวินัยอย่างเคร่งครัด และอยู่ระหว่างมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่อื่น 3. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.มีความเป็นห่วง และขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหาย ยืนยันว่า จะดำเนินการตามกฎหมาย และวินัยอย่างเคร่งครัดต่อไป พร้อมแจ้งไปยังผู้เสียหายหากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ได้รับความปลอดภัยขอให้แจ้ง บช.น.พร้อมที่จะให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่
เบื้องต้น สว.ชี้แจงว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง ส่วนเรื่องพฤติกรรมยังไม่ได้แจ้งกับผู้บังคับบัญชา ที่ผ่านมา ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแต่ในขณะนี้ได้ขอลาพักผ่อน 5 วัน เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางคดี ทั้งการรับทราบข้อกล่าวหา เจรจาผู้เสียหาย และให้การกับพนักงานสอบสวน สำหรับข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุ 15 ปีขึ้นไปฯ”ที่พนักงานสอบสวนแจ้งไปนั้น ถ้ากระทำอนาจารปกติสามารถยอมความกันได้ ส่วนจะมีโอกาสเจรจาและยอมความในที่สุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหายเป็นหลัก เมื่อถูกดำเนินคดีตามกฎหมายมีผลกระทบต่อการรับราชการ และหากถูกจำคุกจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง มีผลถูกให้ออกจากราชการ อย่างไรก็ตาม แม้คดีอาญาจบลงด้วยการยอมความ หรือไม่ยอมความ แต่ทางคดีวินัยยังคงดำเนินการต่อไป โดยนำคำตัดสินคดีอาญามาเป็นพยานหลักฐานพิจารณาลงทัณฑ์ทางวินัย ตัวผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาไปในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่อาจไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไม่พบว่าตำรวจนายดังกล่าวเคยถูกร้องเรียนเรื่องดังกล่าว และเรื่องอื่นแต่อย่างใด
“คดีอาญาเป็นเรื่องของคดีอาญา วินัยก็เป็นเรื่องของวินัย ยืนยันไม่มีการแทรกแซง ผบช.น.กำชับไปยัง สน.คันนายาว ที่เกิดเหตุ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของ สน.บางพลัด ต้นสังกัด ก็ดำเนินการตามวินัยอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี เราก็ไม่เคยปฏิเสธว่าตำรวจจะต้องดีร้อยเปอร์เซ็นต์ นโยบายของ ผบ.ตร. ผบช.น.ก็พยายามอย่างยิ่งทั้งในการฝึกอบรมยุทธวิธี ปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรม เพื่อให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง แล้วไม่ไปกระทำผิดเสียเอง ขณะนี้เราก็ยังยืนยันว่าตำรวจเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในกรอบ แต่มีบางส่วนซึ่งแน่นอนเป็นปกติทุกองค์กร จะนำบทเรียนส่วนหนึ่งมาปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ของตำรวจซึ่งดีอยู่แล้ว เพื่อให้ได้รับรู้รับทราบว่าจะไม่ไปกระทำผิดอย่างนี้อีก” โฆษกนครบาล กล่าว