เยาวชนวัย 15 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง หลังใช้มีดจี้ชิงทรัพย์นักเรียนมัธยมราชวินิตบางเขน สารภาพเมาน้ำกระท่อมผสมยากล่อมประสาท จนคึกคะนองมาก่อเหตุ
จากกรณี 2 คนร้ายขับรถจักรยานยนต์สีชมพูมามาจอดภายในซอยงามวงศ์วาน 43 แยก 2-14 แขวงและเขตทุ่งสองห้อง ก่อนจะใช้มีดคัตเตอร์จี้เด็กนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมราชวินิตบางเขนได้เงินไป 100 บาทก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดช่วง 7.40 น.วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (26 ก.ค.) ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายโอชิน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พร้อมผู้ปกครอง ผู้ต้องหาที่ร่วมกับเพื่อนก่อเหตุใช้มีดชิงทรัพย์นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมราชวินิตบางเขน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพ.ต.ต.จาตุรงค์ ติดนนท์ สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง โดยมี พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมซักถามใช้เวลาประมาณ 15 นาที
โดยพล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนมัธยมราชวินิตบางเขน หลังจากที่ตำรวจได้สืบสวนจนพบแหล่งที่พักอาศัย ก่อนประสานให้ผู้ปกครองนำเข้ามามอบตัว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุไป เนื่องจากอาการมึนเมาน้ำกระท่อมผสมกับยากล่อมประสาท จึงเกิดความคึกคะนอง โดยออกมาก่อเหตุร่วมกับเพื่อสอีกคนหนึ่งอายุ 17 ปีโดยขณะนี้ตำรวจกำลังประสานให้ผู้ต้องหาอีกคนเข้ามอบตัวภายในวันนี้
ส่วนผู้ต้องหากำลังเรียนการศึกษานอกโรงเรยน ชั้นม.1 ในต่างจังหวัด แต่เข้ามาพักกับอาศัยกับญาติย่านประชานิเวศน์3 โดยมีการก่อเหตุในช่วงเช้าวันดังกล่าว 3 ครั้ง โดยครั้งแรกพื้นที่ สน.ประชาชื่น ได้ไปพูดจาข่มขู่ขอเงินเด็กนักเรียนที่เดินผ่าน 3 คน แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินสดให้จึงโอนให้ผ่านธนาคารไปที่บัญชีของพี่ชายผู้ต้องหาจำนวน 20 บาท โดยที่ไม่ได้ใช้อาวุธ
จากนั้นได้มาก่อเหตุที่ย่านประชานิเวศน์ 3 เขตสภ.รัตนาธิเบศร์ โดยก่อเหตุกับคนรู้จักแถวบ้าน แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน ก่อนที่จะมาก่อเหตุที่หน้าโรงเรียนราชวินิตบางเขน ในพื้นที่สน.ทุ่งสองห้อง ได้เงินไป 100 บาท จากนั้นช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายรายที่สองที่รู้จักกับผู้ต้องหา ได้ตามไปที่บ้านและทะเลาะวิวาทกันจากเหตุที่ไม่พอใจมาจี้ชิงทรัพย์ในช่วงเช้า
โดยการสอบปากคำผู้ต้องหาต้องประสานให้สหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาร่วมสอบ ก่อนที่จะส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางภายในวันนี้ ซึ่งเข้าข่ายความผิดร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด และจะตรวจสอบประวัติการก่อเหตุย้อนหลัง เบื้องต้นผู้ต้องหายังอ้างว่าเป็นการก่อเหตุเป็นครั้งแรก
