MGR Online -“บิ๊กราญ” นำทัพนครบาลแถลงรวด 3 คดี สืบ 5 ตามรวบถึงอุบลฯ ช่างสักสาหัสจากพิษโควิด ชักปืนชิงทองในห้าง กวาดไป 34 เส้น ขายใช้หนี้ รับชอบดูหนัง คิดหาแผนอำพราง, ตำรวจบุคคโล ติดตามชายวัย 52 ปี ขับกระบะชน 4 ขวบ บาดเจ็บ ก่อนพาไปทิ้งไว้หน้า รพ.แล้วหลบหนี สุดท้ายมอบตัว, 191 แกะรอยชายหญิง ตระเวนตัดสายเคเบิลทั่วกรุง ปอกเอาทองแดงขายได้วันละ 2 พัน ก่อเหตุมาแล้วเกือบ 200 ครั้ง
วันนี้ (20 ก.ค.) เวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.ปิยะกรณ์ ศรีวันทา ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.แถลงข่าวตำรวจ กก.สส.บก.น.5 สน.คลองตัน สน.บุคคโล และสายตรวจ 191 จับกุมผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทอง ขับรถชนเด็ก และลักสายเคเบิลรวม 3 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย
คดีที่ 1 พื้นที่ สน.คลองตัน ชุดสืบสวน บก.น.5 จับกุม นายประภากร (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาใช้ปืนปลอมชิงทรัพย์ร้านทอง ในห้างสรรพสินค้าย่านพัฒนาการ ก่อเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 19.30 น. พร้อมของกลาง ทองรูปพรรณ 34 เส้น น้ำหนักรวม 45 บาท และเงินสด 12,550 บาท ได้ที่แมนชั่นในซอยชยางกูร 38 ถนนชยางกูร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ เปิดร้านเป็นช่างสัก และบาร์ ช่วงโควิด-19 ประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากถูกจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตัดสินใจกู้เงินนอกระบบมาเล่นพนันออนไลน์ ส่วนทองนำไปขายใกล้ชายแดนใช้หนี้คืน นอกจากนี้ ชอบดูหนังแนวโจรกรรม จึงคิดหาวิธีอำพราง แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อพ้นการจับกุม, พาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
คดีที่ 2 พื้นที่ สน.บุคคโล จับกุม นายอานนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาขับรถกระบะตู้ทึบเฉี่ยวชนเด็กวัย 4 ขวบ ขณะนั่งเล่น บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านดาวคะนอง ก่อเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 16.00 น. จากนั้นอุ้มขึ้นรถขับมุ่งหน้าแยกดาวคะนอง ก่อนนำเด็กที่ได้รับบาดเจ็บมาวางทิ้งไว้หน้าห้องฉุกเฉิน รพ.สุขสวัสดิ์ บางปะกอก แล้วขับหลบหนีไปทางแยกพระราม 2 จากการตรวจสอบประวัติ นายอานนท์ ไม่เคยต้องโทษคดี ผลการตรวจวัดไม่มีแอลกอฮอล์ และยาเสพติดในร่างกาย ต่อมาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน รับสารภาพว่า เป็นรถของน้องสาวภรรยา เข้าใจว่า ไม่มีประกัน และ พ.ร.บ.หลังจากนั้น ทราบว่า มีแต่ พ.ร.บ.เท่านั้น ได้ยินยอมชดใช้ค่ารักษาให้ แจ้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ, เมื่อประสบเหตุไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบ” อยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อหาชนแล้วหนี และทอดทิ้งเด็ก
คดีที่ 3 พื้นที่ สน.บางชัน ชุดสายตรวจ 191 จับกุม นายอณุ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และ น.ส.ปารวตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาลักลอบตัดสายเคเบิล บริเวณซอยเคหะร่มเกล้า 78 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ก่อเหตุเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เวลา 00.45 น. พร้อมของกลาง สายเคเบิล น้ำหนัก 16 กก. คีม 1 อัน และรถกระบะ 1 คัน ได้ที่ริมถนนราษฎร์รัฐพัฒนา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ รับสารภาพว่า ตกงานจากโควิด-19 ตระเวนขับรถกระบะตัดสายเคเบิ้ลปอกเอาทองแดง แล้วนำมาหลอมไปขายต่อในราคา กก.ละ 180-220 บาท วันละ 10 กก. ได้เงินครั้งละ 2,000 บาท ทำมาตั้งแต่เดือน มี.ค. รวมทั้งหมด 190 ครั้ง ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้ระบบสาธารณูปโภคบางช่วงเสียหายเดือดร้อนในวงกว้าง จากการตรวจสอบประวัติ นายอณุ เคยต้องโทษคดียาเสพติด น.ส.ปารวตรี คดีจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป”
