รวบแล้วเจ้าของร้านสัก ควง 9 มม.ชิงทรัพย์ร้านทองโลตัสพัฒนาการ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท รับสารภาพนำทองไปขายตามร้านทองในอำเภออรัญประเทศ-บ่อนในกัมพูชา เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้พนัน และหนี้นอกระบบ
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 ก.ค. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น กก.สส.บก.น.5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และ สน.คลองตัน ร่วมกันจับกุมตัว นายประภากร ศรีสมบัติ อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง เลขที่ จ.396/2565 ลงวันที่ 13 ก.ค. 65 ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อพ้นการจับกุมและพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พร้อมของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย สร้อยข้อมือทองคำจี้รูปหัวใจ 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำจี้รูปปี่เซี้ยะ 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำลายลูกคิด 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำจี้ตัวเลข 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำลายดอกพิกุล 1 เส้น ตะขอทองคำ 1 ชิ้น เงินสด 12,550 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Realme รุ่น narzo50i สีดำ 1 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi รุ่น Note9 สีเขียว 1 เครื่อง
โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 210 ชั้น 2 ฝันดีแมนชั่น ซอยชยางกูร 38 ถนนชยางกูร อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา นายประภากร ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ชิงทรัพย์พนักงานร้านค้าทองพรสุวรรณ สาขาโลตัสพัฒนาการ ได้ของกลางทองรูปพรรณ จำนวน 33 เส้น มูลค่า 1.5 ล้านบาท ก่อนขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป โดยใช้เวลาลงมือแค่ 1 นาที หลังก่อเหตุชุดจับกุมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบเบาะเเสผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของร้านสัก มีแรงจูงใจเนื่องจากติดหนี้พนัน และหนี้นอกระบบ จึงทำการอนุมัติหมายจับศาลติดตามรวบตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
จากการสอบสวน นายประภากร ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองพรสุวรรณจริง โดยก่อนก่อเหตุได้เตรียมอาวุธปืนขนาด 9 มม.กับเสื้อผ้า โบกรถแท็กซี่ออกจากร้าน My way tattoo studio artist ลาดพร้าววังหิน ซึ่งเป็นร้านตนเอง เดินทางไปเอารถ จยย.ยี่ห้อ Honda รุ่น ZOOMER X สีน้ำตาล ที่ลาดพร้าว 101 แล้วขับขี่รถ จยย.คันดังกล่าวออกจากลาดพร้าว 101 วนอยู่ภายในเขต กทม. และ จ.สมุทรปราการ เพื่อดูลาดเลาตามห้างต่างๆ จนกระทั่งมาสบโอกาสบริเวณร้านทองที่ก่อเหตุ พอได้ทองคำมาแล้วก็ขับขี่ รถ จยย.หลบหนีไปทางซอยพัฒนาการ 51 ทิ้งรถ จยย.และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุไว้ จากนั้นได้หลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆ ระหว่างที่หลบหนีได้ทำอาวุธปืนหล่นหาย และนำทองที่ได้จากการชิงทรัพย์ไปขายที่ร้านทองหลายร้านภายใน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และขายที่บ่อนกาสิโน ประเทศกัมพูชา หาเงินมาใช้หนี้นอกระบบ และหนี้สินจากการเล่นพนัน กระทั่งถูกจับกุม
โดยหลังจากนี้ ชุดจับกุมจะคุมตัวผู้ต้องหาจากจังหวัดอุบลราชธานี เข้ากรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.สอบสวนด้วยตนเองก่อนแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จากนั้นจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป